LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันพฤหัสที่ 19 ธันวาคม 2024
คอลัมน์วันนี้

ความงามในม่านหมอก 360 องศา ที่ภูทับเบิก

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ต.ค. 2557 06:05

EyWwB5WU57MYnKOuFHOPi1Efj5MAl0fCAjYqIafnBiH8LyEPo4ZaLP

 

เหมือนมีทะเลหมอก เมฆหมอกเย็นๆ มาโอบกอดอยู่รอบๆ ตัว เป็นการสวมกอดจากธรรมชาติที่แตกต่างไปจากอ้อมกอดอุ่นๆ ของคนรักอย่างสิ้นเชิง แต่ให้ความรู้สึกดี ผ่อนคลาย เพิ่มพลังให้หัวใจได้เต็มที่ ไม่แตกต่างกัน – เจ้าของภาพบอกประมาณนั้น

“ที่นี่หนาวตลอดแทบทั้งปี ยิ่งไปเที่ยวหน้าหนาว หมอกขอคืนพื้นที่สวยมากๆ วิวก็มองได้ 360 องศา บรรยากาศดีๆ ฟ้าเป็นฟ้า ธรรมชาติสีเขียว คนท้องถิ่น (หมายถึงชนเผ่าม้ง) ก็ยิ้มแย้ม แจ่มใส สักครั้งควรไปเยือน”

ภาพเล่าเรื่องสัปดาห์นี้ ตฤณ จันทร์สว่าง ช่างภาพฝีมือ จากไทยรัฐออนไลน์พาไปเที่ยวภูทับเบิก ยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์ ระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี หนึ่งในสถานที่อันซีนไทยแลนด์

เป็นอันว่าหนาวนี้เจอกัน ภูทับเบิก.

 

อ้อมกอดหมอก
เส้นทางสายธรรมชาติ

 

วิถีหมอก

 

ทางเดินธรรมชาติ

 

มุมอันซีน

 

เมฆ หมอกคล้ายเป็นสิ่งเดียวกัน

 

ความงดงามจากมุมสูง

 

จุดชมวิว

 

ฟ้าสวยแผ่นดินเข้ม

 

ทุ่งกะหล่ำปลี

 

น่านอน

 

ทนทานอากาศเย็น

 

ต้องไปสักครั้ง

 

หมอกมาแล้ว
ดูเด็กตัวน้อย ชาวม้งน่ารัก

 

ธรรมชาติของความเดียงสา

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก ภูทับเบิก

 

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสำรวจท่องเที่ยวได้ไม่นานนัก แต่ก็สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ไปเยือนได้เป็นอย่างมาก จนกลาย 1 ใน UNSEEN THAILAND ที่คุณไม่ควรพลาดการไปเยือน ด้วยระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุณหภูมิที่หนาวเย็นทั้งปีบนยอดภู และไร่กะหล่ำปลี ที่กว้างใหญ่สุดลูกตา กินบริเวณยอดภูหลายลูก

ภู ทับเบิกเป็นชื่อของ หมู่บ้านม้งทับเบิก  ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง บนภูเขาสูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ในตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า ซึ่งห่างจากตัวอำเภอประมาณ 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 100 กม. ชาวม้งที่นี่มีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก พืชผักที่มีการปลูกมากที่สุด ก็คือกะหล่ำปลี ซึ่งมีการจัดสรรที่ดินทำกินสำหรับการปลูกกะหล่ำปลีหลายพันไร่บนยอดเขาสูง ทำให้ในช่วงฤดูฝน มีกะหล่ำปลีผุดขึ้นละลานตาเต็มภูเขา โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี

ภูทับเบิก

จุดเด่นที่สุดของภูทับเบิก คือ การชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา เหนือบรรดาเมฆหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ และมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นยอดเขาสูงที่สุดของเพชรบูรณ์ และปลูกแต่กะหล่ำปลีทั่วทั้งหุบเขา ทำให้ไม่มีต้นไม้ใหญ่มาบดบังทัศนียภาพ และกระแสลมบน ขณะที่ในบางเช้าก็มีทะลหมอกขนาดใหญ่ กินบริเวณกว้างทางด้านทิศตะวันออกที่ติดกับ อำเภอหล่มเก่า ถือเป็นทะเลหมอกที่ใกล้กับผู้ชมมากที่สุด เพราะหมอกทั้งหมดมาออกันอยู่ด้านข้างจุดกางเต็นท์นั่นเอง

หมู่บ้านม้งทับเบิก ซึ่งอยู่ด้านในเลยจากจุดชมวิว ยังเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ซึ่งยังคงรักษาวิถีชีวิตตามแบบฉบับม้งดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้ยังมีวัดป่าบ้านทับเบิก เป็นจุดท่องเที่ยว และจุดชมวิวที่สำคัญภายในหมู่บ้าน เคยเป็นจุดที่ใช้รองน้ำค้างกลางหาว ที่นำไปทำน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อประกอบพิธีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระราชพิธีสำคัญต่างๆ โดยวัดตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผา ติดกับอำเภอหล่มเก่า ทำให้มองเห็นวิวในมุมสูงได้กว้างไกลมาก

ภูทับเบิก

บริเวณ ภูทับเบิก มีรีสอร์ทที่พักจำนวนน้อย แต่มีที่สำหรับกางเต็นท์พักแรม แคมปิ้ง จำนวนมาก เต็นท์ที่พักให้เช่า สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืน เพื่อสัมผัสความหนาวเย็น หรือต้องการชมทะเลหมอกตอนเช้า  มีร้านอาหาร และร้านจำหน่ายน้ำดื่มไว้รองรับนักท่องเที่ยว แต่หากเป็นช่วงเทศกาลสำคัญ ควรเตรียมอาหารและน้ำเอง จะสะดวกที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก ขณะที่ร้านค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการ

สำหรับที่กางเต็นท์บนจุดชมวิว และบริเวณไร่กะหล่ำปลี ของวิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านทับเบิก มีค่าบริการดังนี้
เต็นท์นอน 4 คน พร้อมเครื่องนอน ราคา 650 ต่อคืน
เต็นท์นอน 2 คน พร้อมเครื่องนอน ราคา 350 ต่อคืน
นำเต็นท์มาเองคิดค่าบำรุงสถานที่ คนละ 40 บาท ต่อคนต่อคืน

ส่วน ห้องน้ำสำหรับอาบน้ำ และห้องสุขา มีไว้รองรับจำนวนมาก แต่ด้วยความที่มีอากาศหนาวเย็น และไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น อาจทำให้หลายคนไม่กล้าอาบน้ำ เก็บดองเค็มไว้อาบที่บ้าน เพราะในฤดูหนาว น้ำที่นี่เย็นกว่าน้ำแข็งซะอีก ลองค้างที่นี่สักคืน จะเป็นประสบการณ์วิเศษที่จะลืมไม่ลงทีเดียว

การเดินทาง บน ภูทับเบิกเป็นภูเขาสูงชัน ยังไม่มีรถประจำทาง สามารถเดินทางได้โดยทางรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งสามารถขึ้นเขาได้ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ รถที่จะขึ้นภูทับเิบิก ต้องตรวจเช็คความพร้อมของเครื่องยนต์ ระบบเบรค และครัชให้ดีก่อน และมีควรมีกำลังมากกว่า 1500 ซีซี. และผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์ในการขับรถขึ้นเขามาบ้างแล้ว

จากกรุงเทพฯ ถึง จังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวเมืองมุ่งหน้าไปทางอ.หล่มสัก ก่อนถึงแยกพ่อขุนประมาณ 10 กม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางเลี่ยงเมืองสาย 21 (เลยปั๋ม คาลเท็กซ์ไป 200 ม.) >>> ขับรถไปอีก 6-7 กม. ถึงสี่แยกกกโอ ให้เลี้ยซ้ายไปทางพิษณุโลก >>> ตรงไปประมาณ 1-2 กม. ถึงสี่แยกไฟแดง หากตรงไปจะขึ้นไปเขาค้อ และพิษณุโลก ให้เลี้ยวขวา เข้าถนนสาย 2372 >>> ตรงไป ประมาณ 13-15 กม. มีป้ายบอกทางภูทับเบิก-ภูหินร่องกล้า ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงหลายเลข 2331 ไปภูทับเบิก ขับไปตามเส้นทาง ซึ่งเป็นทางขึ้นเขา ระยะทางประมาณ 17.7 กิโลเมตร รวมโค้งหักศอก ทะแยงขึ้น-ลง ได้ประมาณ 111 โค้ง (ในช่วงอ.หล่มสัก-อ.หล่มเก่า มีป้ายบอกเส้นทางไปภูทับเบิกตลอดเส้นทาง)

ระหว่าง นี้ ท่านจะตื่นเต้นกับธรรมชาติด้านล่างที่สวยงามตลอดเส้นทาง ยิ่งสูงยิ่งสวย เมื่อถึงสามแยกที่มีป้ายอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และด่านเก็บเงินค่า ธรรมเนียมอุทยานฯ ให้เลี้ยวขวา ไม่ต้องเข้าไปในอุทยาน แล้วขับตรงไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวขวาขึ้นไปยังจุดชมวิว ขับไปประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงลานจอดรถ จากนั้นก็เดินเท้าประมาณ 100 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิว…ภูทับเบิก

……………………………………………………………….

‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

คอลัมน์วันนี้ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด