การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ ดำเนินการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภาคเหนือ ด้วยการเน้นการสร้าง
สมดุลให้เกิดการกระจายตัวการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่มีศักยภาพในพื้นที่ภาคเหนือตลอดทั้งปี จากแนวทางดังกล่าว จึงจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว Go North Thailand สัญจรขึ้น ภายใต้แนวคิด “เที่ยวไหน…ไปเที่ยวเหนือ” เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยววันธรรมดา ภายใต้แนวคิด “แอ่วเหนือม่วนกั๋น มหัศจรรย์วันธรรมดา” นำเสนอให้เห็นถึงข้อดีของการท่องเที่ยววันธรรมดา เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาโรงแรม/ที่พักไม่สูง ไม่ต้องประสบปัญหาที่พักไม่เพียงพอ ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และสินค้าต่างๆ มีจำนวนผู้ใช้บริการที่เหมาะสม
เพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวกับบรรยากาศภูดอกไม้สายหมอกที่เบ่งบานตลอดทั้งปี จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง เป็นดินแดนแห่งขุนเขา ผืนป่าเขียวขจี ทัศนียภาพสวยงาม อากาศสดชื่นเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะบริเวณเขาค้อ ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เพชรบูรณ์เดิมมีชื่อว่า “เพชรบุระ” หรือ “พืชปุระ” อันหมายถึงเมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร
ในยุคสมัยหนึ่ง เพชรบูรณ์กลายเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะในบริเวณเขาค้อและภูหินร่องกล้า กลายเป็นพื้นที่สีชมพูยาวนานกว่า 13 ปี ปัจจุบันเขาค้อและภูหินร่องกล้าได้รับการพัฒนาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ภายในตัวเมืองมีสถานที่สำคัญที่ต้องแวะเวียนคือ พระพุทธมหาธรรมราชาองค์จำลอง ตัวองค์พระมีน้ำหนักประมาณ 60 ตัน ประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานเพชบุระ พระพุทธรูปเนื้อโลหะหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ ขนาดหน้าตัก 11.984 เมตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ครบ 84 พรรษา พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ เป็นองค์พระที่อัญเชิญมาประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเพชรบูรณ์ องค์พระพุทธมหาธรรมราชาจำลองขนาดใหญ่นี้ได้หล่อขึ้นที่โรงหล่อพุทธรังสี นครปฐม และมีพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติฯ ขึ้นประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานเพชรบุระ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เพื่อเป็นศูนย์รวมใจชาวเพชรบูรณ์และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ
บนเส้นทางสาย 12 ถนนที่กำลังได้รับการพัฒนาให้มีการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น มุ่งหน้าสู่เขาค้อ ดินแดนที่เป็นเส้นทางสายโรแมนติกเส้นหนึ่งที่คดเคี้ยวไปตามขุนเขา มีร้านกาแฟผุดขึ้นตามสองข้างทางให้นักเดินทางได้มีเวลาได้ชิม ชิลล์กับความงามที่สามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องมโน แวะชิมริมทางมาไม่ไกล ก็จะมองเห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่บนภูเขาสูงที่อยู่เบื้องหน้า นั่นคือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบ มีภูเขาที่สูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขาซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตามๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้วยังมีสถานที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ เจดีย์พระธาตุผาแก้ว บริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนาสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป
อิ่มอกอิ่มใจ จากไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว แล้วก็มุ่งหน้าไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่เราแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า พระอาทิตย์ตกดินสามารถมองเห็นได้จากห้องนอน จากห้องพักของ แทนรักทะเลหมอก รีสอร์ทที่อุดมไปด้วยดอกไม้ต้นไม้นานาพันธุ์ที่บานสะพรั่งเปล่งสีสันแข่งกับแดดร้อนในช่วงกลางวัน พระอาทิตย์ค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับแสงไฟที่ผุดขึ้นตามดอย ดาวบนดินเริ่มต้นพร้อมกับความเย็นของสายลมที่พัดผ่านเข้ามาจนแทบไม่ต้องเปิดแอร์คอนดิชั่น ความเงียบกับความเย็นทำให้เกิดความรู้สึกเงียบสงบที่เกิดขึ้นในใจได้อย่างง่ายๆ โดยอัตโนมัติ ปล่อยตัว ปล่อยใจไปที่นอนนุ่มๆ พร้อมกับโอโซนที่เล่าขานว่า มาจากเทือกเขาหิมาลัยกันเลยทีเดียว
มาเขาค้อทั้งทีจะมัวนอนตื่นสายได้อย่างไร ในเมื่อยังมีภาพสวยๆ ยามเช้าอย่างพระอาทิตย์ขึ้นที่หาสวยๆไม่ได้ในเมืองใหญ่ เราจึงมุ่งหน้าไปที่เขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามแห่งหนึ่งในเขาค้อ วิว 360 องศาที่ไม่ต้องพึ่งแอพพลิเคชั่นใดๆ ดวงตะวันสีทองพร้อมหมอกบางบาง ลมเย็นยามเช้าช่างสดชื่นยิ่งรัก พร้อมทั้งมีเสียงไก่ขันยามเช้าทำให้ไม่อยากจากไปไหนเลย อยากเก็บความรู้สึกดีดีไว้นานๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องจากมา พร้อมกับภาพสวยที่ช่วยบันทึกความทรงจำให้คิดถึงวันเวลาดีดีเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ขากลับเราก็ไม่ลืมที่จะแวะ “ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย” หรือทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
และอีกสถานที่ที่เราไม่ควรพลาดที่จะแวะเยี่ยมชม พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่บนเขาค้อ ริมทางหลวงหมายเลข 2196 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก อยู่ติดถนนด้านขวามือ เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการบูชา ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย
ขากลับอย่าลืมแวะชมไร่สตรอเบอร์รี่ที่กำลังเป็นที่นิยมในเขาค้อ ที่มีทั้งสองข้างทาง เปิดสวนพร้อมให้ชิมกันสดๆ จากต้น ที่มีใช้ชิมกันจนถึงเดือนเมษายนกันเลยทีเดียว และอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดแวะซื้อของฝากก่อนกลับ นั่นคือ ไร่กำนันจุล ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 202 ทางหลวงหมายเลข 21 เส้นสระบุรี-หล่มสัก ก่อนถึงตัวเมืองเพชรบูรณ์ 21 กิโลเมตร ใกล้สามแยกวังชมภู เป็นผู้บุกเบิกการทำไร่ส้มเขียวหวาน ส่งออกขายทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านรายแรกๆ ของประเทศไทย
เพชรบูรณ์ จังหวัดที่ไม่ใช่ทางผ่านของใคร ยังมีเสน่ห์ให้นักเดินทางได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความงามได้ตลอดปี ที่ไม่ได้มีแค่เขาค้อ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งทางด้านธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ที่ชวนให้คุณอยากจะเดินทางมาสัมผัสให้ได้ครั้งในชีวิต คุณเคยรู้หรือไม่ว่า เพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่เคยเกือบจะเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยด้วยซ้ำไป!!!! แต่ด้วยเหตุใดนั้นก็ลองไปค้นหาคำตอบดูกันเองก็แล้วกัน สนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดการท่องเที่ยวได้ที่ www.gonorththailand.com แล้วคุณจะรักการท่องเที่ยวมากขึ้น’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook