LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
เปิดเวทีระดมความเห็น สร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ไปเพชรบูรณ์ เล็งเชิญ “รฟท.-บริษัทที่ปรึกษา” ร่วมฟังความเห็น 1 เม.ย.นี้ คาดโครงการสำเร็จ ชาวมะขามหวานได้ประโยชน์
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ทางจังหวัด จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของตัวแทนภาครัฐ และภาคเอกชน เกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ระหว่างสาย ลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-เลย-หนองบัวลำภู และสายจัตุรัสชัยภูมิ-เลย-หนองบัวลำภู ที่หอประชุมศาลากลาง จ.เพชรบูรณ์ จากกรณีที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างให้บริษัทที่ปรึกษาโครงการ ศึกษาความเหมาะสม ซึ่งจะมีเชิญผู้แทนจาก รฟท. และบริษัทที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมรับฟังความเห็น เนื่องจากต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกก่อสร้างทางรถไฟ ตามนโยบายของรัฐบาล
นายเสกสรร กล่าวต่อว่า เวทีนี้ทางจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการจัดขึ้นมาเอง เพราะเห็นว่าขณะนี้ข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาฯ และทาง รฟท.อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ เนื่องจากบริษัทที่ปรึกษาฯ ได้ตั้งเวทีรับความเห็นที่ จ.เพชรบูรณ์ ไปเพียงครั้งเดียว ขณะที่ได้จัดเวทีในจังหวัดอื่นหลายครั้ง อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้มีแผนการที่จะสร้างทางรถไฟผ่าน จ.เพชรบูรณ์ มาแล้วอย่างน้อย 5 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อ รฟท. มีโครงการศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ขึ้นมา จึงถือเป็นโอกาสดีของชาวเพชรบูรณ์ เพราะจะส่งผลดีทั้งในแง่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมไปถึงการท่องเที่ยว เห็นได้ว่าขณะนี้ชาวเพชรบูรณ์ตี่นตัวกันมากในเรื่องนี้ มีการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “รถไฟต้องมาเพชรบูรณ์” มั่นใจว่าชาวเพชรบูรณ์ 99% เห็นด้วยกับโครงการนี้ หาก รฟท. และบริษัทที่ปรึกษามีข้อสงสัย หรือข้อขัดข้องใด ๆ ก็อยากให้มาถามและรับฟังข้อมูลโดยตรงจากชาวเพชรบูรณ์เองมากกว่า
ขณะที่ นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.เพชรบูรณ์ กล่าวเสริมว่า ยอมรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี จึงจะดำเนินการแล้วเสร็จ แต่อย่างน้อยหากวันนี้ รฟท.และบริษัทที่ปรึกษาได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน และเลือกก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ผ่าน จ.เพชรบูรณ์ ก็จะถือเป็นก้าวแรกที่ชาวเพชรบูรณ์ จะได้รับประโยชน์จากการเดินทาง และขนส่งสินค้าทางรถไฟโดยตรง หรือนำเข้าสินค้าจากที่อื่น รวมไปถึงการนำสินค้าไปจำหน่ายในประเทศลาว ผ่านทาง อ.ท่าลี่ ไปจนถึงแขวงไชยะบุรี ได้รับความสะดวกกว่าในปัจจุบันมาก.’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook