โฮมสเตย์ “บ้านหนองแม่นา” ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หมู่บ้านทหารพราน แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่อยู่ท่ามกลางสายหมอกและขุนเขา มีกิจกรรมท่องเที่ยว นั่งเรือพาย ท่องป่า ตามหาแมงกะพรุนน้ำจืด ดูนก ดูผีเสื้อ นั่งรถอีแต๊กชมสวนผลไม้ อยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ได้ส่องสัตว์ในยามค่ำคืน ดูดาว และอื่นๆ อีกเพียบ
โฮมสเตย์ “บ้านหนองแม่นา” ได้รับมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบัน
เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศของ “กลุ่มชุมชนคนรักษ์ป่าหนองแม่นา” ซึ่งได้รับรางวัลการบริหารจัดการดีเด่น จาก “กรมการท่องเที่ยว”
ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น และต้องการพักแรมแบบโฮมสเตย์ ชาวบ้านในชุมชนจึงรวมตัวกันจัดตั้งโฮมสเตย์ขึ้นเพื่อรองรับการท่องเที่ยว
จุดเด่นของ โฮมสเตย์ “บ้านหนองแม่นา”
นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าหนองแม่นา ซึ่งยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ธรรมชาติร่วมกับการทำความเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น
หมู่บ้านหนองแม่นาเป็นพื้นที่ติดป่าดงดิบ มีลำน้ำเข็กเป็นบริเวณขอบเขตระหว่างหมู่บ้านกับอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จึงเหมาะแก่การทำกิจกรรมเดินป่า และศึกษาธรรมชาติ
และที่นี่ยังมีบริการนำเที่ยว เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหิน อีกด้วย สนใจติดต่อ โทร. 089-003-6302
เมื่อมาถึงจะมีพิธีต้อนรับโดยชาวบ้านหนองแม่นา โดยใช้ดอกไม้ในท้องถิ่นมาทำเป็นพวงมาลัยคล้องคอ ต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ร่วมสักการะอนุสาวรีย์ “พันตรีทองแดง บุญญานุสนธิ์” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความดี ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและเสียสละอย่างสูง ของ พันตรี ทองแดง บุญญานุสนธิ์ ที่นำกำลังพลออกปราบปรามผู้ไม่หวังดีกับประเทศชาติตามแผนผาเมืองเผด็จศึก เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2524
ศาลแม่ย่า ศูนย์รวมใจ ที่ชาวบ้านหนองแม่นา ให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างสูง
โฮมสเตย์ เป็นบ้านของชาวบ้านในชุมชน เป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนจะยกให้แขกพัก ส่วนเจ้าของบ้านนอนชั้นล่าง
มี 3 ห้องนอน และห้องโถงใหญ่กว้างๆ ถ้ามากันหลายคนเป็นหมู่คณะสามารถพักได้ถึงหลังละ 10 คน
ข้างบ้านมีพื้นที่ทำสวนครัวและแปลงเกษตร มีร้านค้า และปั๊มน้ำมันแบบท้องถิ่นด้วย
เมนูอาหาร จะเป็นแบบบ้านๆ ที่ทำจากผักสดๆ เช่น กะหล่ำปี คะน้า กระหล่ำดอก ผักเมืองหนาวที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น น้ำพริกรสชาติจัดจ้าน และเมนูไข่เจียวที่ขาดไม่ได้ในสำรับอาหารทุกมื้อ
ตอนกลางคืนไปส่องสัตว์ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ชมฝูงกวาง หมูป่า ที่มีอยู่มากมายบนทุ่งหญ้าแบบสะวันนา หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย”
มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องระบบนิเวศในป่า พันธุ์ไม้ สัตว์ป่า และแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
ต้นสนเก่าแก่ มีขนาดใหญ่มาก นับอายุโดยดูจากเส้นรอบวง
ชม“ไม้กลายเป็นหิน”ภายในอุทยานฯ
ไม้กลายเป็นหินในประเทศไทย เกิดจากภาวะน้ำท่วม ทำให้มีการพัดพาตะกอนกรวดทรายดิน ตกทับถมท่องไม้ต่างๆ ที่หักโค่น ซึ่งตะกอนเหล่านั้นจะค่อยๆ ถูกชะล้างละลายเอาซิลิกาออกมา ซึมผ่านเข้าไปในเนื้อไม้ที่ฝังอยู่ใต้ดิน จนตกผลึกกลายเป็นหิน
ยามเช้าอากาศเย็นสบาย ไปสัมผัสทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่ “เขาตะเคียนโง๊ะ” จุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเขาค้อ “ตำนานเขาฟูจิเมืองไทย” สามารถชมทะเลหมอกได้รอบ 360 องศา
มีบริการ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อำนวยความสะดวก ผู้ที่มากางเต็นท์นอนที่จุดชมวิว “เขาตะเคียนโง๊ะ”
ยามบ่ายมีกิจกรรมพายเรือล่องแก่ง ชมแมงกะพรุนน้ำจืดแห่งเดียวของเมืองไทย
นั่งเรือพายล่องลำน้ำเข็ก ไป-กลับ ระยะเวลา 2 ชั่วโมง เริ่มต้นการเดินทางที่ “แก่งบางระจัน” เพลิดเพลินกับการสัมผัสธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำเข็ก
ที่มาของชื่อ “แก่งบางระจัน” เมื่อครั้งอดีตเคยเป็นฐานที่มั่นของ ผ.ก.ค. (ผู้ก่อการร้ายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) และเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่าง ผ.ก.ค. กับทหาร กว่าจะตีแตกต้องใช้เวลานาน จึงขนานนามว่า “แก่งบางระจัน” และเรียกติดปากมาจนทุกวันนี้
แก่งบางระจัน ยังเป็นแหล่งอาศัยของแมงกะพรุนน้ำจืด ที่มีแห่งเดียวในเมืองไทย จะพบมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน ของทุกปี
แมงกระพรุนน้ำจืด (ชนิดสายพันธุ์น้ำไหลบนภูเขา) อาศัยอยู่บนเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,250 เมตร มีขนาดเล็ก ประมาณเหรียญ 5 บาท หรือเหรียญ 10 บาท ลำตัวคล้ายร่มหรือกระดิ่ง มีหนวด และเยื่อบางๆ ตรงขอบร่ม ช่วยในการเคลื่อนไหว มักพบในช่วงฤดูร้อนที่อากาศอบอุ่นและน้ำนิ่ง
ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม ตายง่าย หากเอาไปเลี้ยงก็อยู่ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์
สองฝั่งลำน้ำมีสภาพเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นมาก บริเวณลำน้ำยังสามารถศึกษาธรรมชาติได้หลายรูปแบบ เช่น ศึกษาพันธุ์ไม้ ส่องนก และดูผีเสื้อ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด จึงเหมาะสมกับการพักผ่อน และการพายเรือศึกษาธรรมชาติ
สืบค้นประวัติ “หอยก้นตัด” หอยที่ถูกค้นพบบริเวณลำน้ำเข็ก ที่ก้นหอยเหมือนถูกตัดทุกตัว
สัมผัส “ดงผีเสื้อ” ที่พบบริเวณ 2 ข้าง ของลำน้ำเข็ก พบผีเสื้อหายากอย่างน้อย 9 ชนิด คือ ผีเสื้อเหลืองหนามแคว้นฉาน ผีเสื้อจันทรา ผีเสื้อเหลืองกำมะถัน ผีเสื้อไกเซอร์ดำ ผีเสื้อลายตลกขีดยุ่ง ผีเสื้อแดงอินเดีย ผีเสื้อเหลืองลีนา ผีเสื้อประกายฟ้า และผีเสื้อไม้ก่อลายหัก ซึ่งรวมที่ค้นพบทั้งหมด 135 ชนิด พื้นที่ตำบลหนองแม่นา มีมากกว่า 300 ชนิด
“ลูกมะหรอด” ผลไม้ป่า มีรสหวานฝาด เก็บกินได้ริมลำน้ำเข็ก
ล่องเรือกลับ แวะให้อาหารปลาที่ “วังมัจฉา” หน้าสำนักสงฆ์แก่งบางระจัน
รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ แวะชมและช้อปผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในท้องถิ่น ได้แก่ “ข้าวเหนียวดำ พันธุ์ลืมผัว”
เดิมเป็นข้าวไร่ที่ชาวม้งปลูกไว้ เพื่อทำขนมในพิธีกรรมตามความเชื่อ จึงมีพื้นที่ปลูกน้อย มีเรื่องเล่าว่าพันธุ์ข้าวนี้เมื่อหุงรับประทาน ข้าวมีรสชาติอร่อยมาก ไม่อยากแบ่งให้ใครกินแม้กระทั่งสามีของตน จึงตั้งชื่อพันธุ์ข้าวนี้ว่า “ข้าวพันธุ์ลืมผัว”
ข้าวเหนียวดำ “พันธุ์ลืมผัว” เป็นเกษตรอินทรีย์ ปลอดภัย ได้ขึ้นทะเบียนข้าวตามตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของกรมการข้าว ใช้ชื่อทางการค้าชื่อ “ข้าวไร่ลืมผัวเพชรบูรณ์”ลักษณะข้าวเมื่อแรกเคี้ยวจะกรุบหนึบ ภายในนุ่มเหนียว
สาธิตการทำไม้กวาด ป้ามดเขาค้อ โทร. 087-843-0344, 084-576-4821
น้ำเสาวรส และอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก หมวก ฯลฯ
และที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ เส้นขนมจีนสมุนไพรอบแห้ง ที่มีวิธีทำง่ายๆ คือ นำขนมจีนไปแช่ในน้ำเย็น 10 นาที หรือนำเส้นลงลวกในน้ำเดือดประมาณ 2-3 นาที ตักขึ้นจากน้ำร้อนใส่ในน้ำเย็นจับเป็นหัวใส่ภาชนะจนะได้เส้นที่เหนียวนุ่ม เสร็จแล้วปรุงรสตามชอบ
จำหน่ายโดย วิสาหกิจชุมชน ปลูกพืชและแปรรูปแก่งบางระจัน
ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
สนใจโทร. 089-885-5710, 086-938-7952, 084-579-1126, 089-885-5710, 087-018-5050, 096-556-5854
ช่วงบ่าย นั่งรถอีแต๊กชมแปลงเกษตร ของบ้านหนองแม่นา มีทั้ง ไร่เสาวรส แปลงผัก กระหล่ำปลี หัวไชเท้า ต้นพริก ไผ่ไต้หวัน ต้นไหม และโรงเลี้ยงหนองไหม ชมวิถีชีวิตชุมชนเกษตรกรรม
กิจกรรมและอัตราค่าบริการ
– นั่งรถอีแต๊กชมแปลงเกษตร และชมวิถีชีวิตชุมชน (1,700 บาท/คัน นั่งได้ 8 ท่าน/คัน)
– นั่งรถอีโก้ง ชมหิ่งห้อยภูเขา เฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน (1,200 บาท/คัน นั่งได้ 8 ท่าน/คัน)
– นั่งรถรอบเขาค้อ (นั่งได้ 10 ท่าน/คัน)
– ชมพระอาทิตย์ขึ้น (ไป-กลับ 200 บาท/คัน)
– ทุ่งนาพญา (ไป-กลับ 900 บาท/คัน)
– รอบเขาค้อ (ไป-กลับ 2,000 บาท/คัน)
– ภูทับเบิก-ภูหินร่องกล้า (ไป-กลับ 2,000 บาท/กลุ่ม)
– ส่องสัตว์ที่ทุ่งแสลงหลวง (800 บาท/คัน นั่งได้ 8 ท่าน/คัน)
– นวดแผนไทย (ชั่วโมงละ 150-200 บาท)
– นั่งเรือพายล่องลำน้ำเข็ก ชมผีเสื้อนานาพันธุ์ และแมงกะพรุนน้ำจืด แห่งเดียวในประเทศไทย (2 ชั่วโมง) 5 คนขึ้นไป 200 บาท/คน , ต่ำกว่า 5 คน 800 บาท/คน
ที่พักและอัตราค่าบริการ
ที่พัก: โฮมสเตย์ 5 หลัง รับท่องเที่ยวได้ 40 คน
อัตราค่าบริการ: ค่าบริการบ้านพักโฮมสเตย์ 1 คืน รวมอาหาร 2 มื้อ 350 บาท/คน
ประเภทโฮมสเตย์: สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และธรรมชาติ
กลุ่มการท่องเที่ยว: ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว: ตลอดทั้งปี
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
– ทุ่งแสลงหลวง
– เขาตะเคียนโง๊ะ
– น้ำตกศรีดิษฐ์
– แก่งบางระจัน
– ทุ่งนางพญา
การเดินทาง
จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ไปอำเภอหล่มสัก ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ถึงบ้านนางั่ว เลี้ยวซ้ายตรง สามแยกนางั่ว วิ่งไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2258 ขึ้นเขาค้อผ่านสี่แยกบ้านสะเดาพงษ์ ผ่านพระตำหนักเขาค้อ ตรงไปเข้าสู่ชุมชนหนองแม่นา และจากบ้านทานตะวันเลี้ยวขวาตามทางไปประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่สล.8 (หนองแม่นา)
จากจังหวัดพิษณุโลก ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ประมาณ 100 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตรงสามแยกแคมป์สน เข้าสู่เขาค้อ ผ่านหน้าอำเภอเขาค้อ ถึงสี่แยกบ้านสะเดาพงษ์ เลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 2258 ผ่านพระตำหนักเขาค้อตรงไปเข้าสู่ชุมชนหนองแม่นา และจากบ้านทานตะวันเลี้ยวขวาตามทางไปประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่สล.8 (หนองแม่นา)
ติดต่อสอบถาม
คุณสมพงษ์ ตุ้มดำ (ประธานกลุ่มโฮมสเตย์) โทร. 094-180-1298, 081-046-2166
คุณอุดม นามฮง (รองประธานกลุ่มโฮมสเตย์) โทร. 087-842-3530
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง
กรมการท่องเที่ยว (Department of Tourism)
www.tourism.go.th – See more at: http://www.unseentourthailand.com/update/index.php?topic=40.msg43#new’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook