เกิดอุบัติเหตุสยองบนถนนที่ลพบุรี รถเก๋งยาริสวิ่งฝ่าสายฝนก่อนเสียหลักขวางทางรถเก๋งคัมรี ทำให้ชนกันอย่างแรง รถกระเด็นตกข้างทาง ชาวบ้านเห็นคนติดอยู่พยายามทุบกระจกเพื่อช่วยออกมา แต่ช่วยไม่ทันไฟลุกคลอกดับคารถ…
ร.ต.ท.มาโนช ช้างพลาย พงส.สภ.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊งลพบุรี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รถชนกันเหตุเกิดบริเวณ ทางโค้ง ถนนสายลพบุรี-บ้านแพรก ทางแยกเข้าวัดโคกโพธิกุญชร หมู่ 5 ต.ตะลุง อ.เมืองลพบุรี เมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 20 ก.ค.58
พบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส ตกอยู่ข้างทางติดกับคลองส่งน้ำชลประทาน กำลังมีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ต้องขอรถดับเพลิงจาก อบต.ตะลุงมาทำการดับเพลิง
ส่วนบนถนนพบรถเก๋งโตโยต้าคัมรี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กฉ 6949 ลพบุรี จอดอยู่ สภาพด้านหน้าซ้ายพังยุบ คนขับชื่อนายวินัย ปานถม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.งิ้วราย อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เจ้าหน้าที่ได้เร่งดับเพลิงที่ลุกไหม้รถเก๋งยาริส เนื่องจากมีคนติดอยู่ในรถ ก่อนที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้ แต่รถถูกไหม้วอดหมดทั้งคัน และคนที่ติดอยู่ได้เสียชีวิตคาซากรถในสภาพถูกไฟคลอก ตรวจในป่าหญ้าข้างทางพบกันชนหน้ารถของรถเก๋งที่ถูกไฟไหม้ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฌก 5346 กรุงเทพมหานคร และยังพบกระเป๋าถือตกอยู่ ข้างในมีบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ น.ส.โชติกา ฤชา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 8 ต.ห้วยสะแก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นของผู้เสียชีวิต
จากการสอบถามนายวินัย ปานถม คนขับรถเก๋งคัมรี กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถมุ่งหน้าจะกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ มาถึงที่จุดเหตุ เป็นทางโค้ง และมีฝนตกลงมา ได้มีรถเก๋งยาริส สีขาว ขับสวนทาง และเสียหลักกินเลนเข้ามาหารถตน ทำให้พุ่งชนกันอย่างจัง จนรถเก๋งคู่กรณีเสียหลักตกลงไปข้างทางข้างคลองชลประทาน ติดอยู่กับสะพานไม้ข้างคลอง ตนและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ พยายามจะเข้าไปช่วยคนขับ ซึ่งเป็นผู้หญิงหมดสติอยู่ภายในรถ โดยพลเมืองดีได้ใช้กำปั้นทุบกระจก แต่กระจกไม่แตก ขณะนั้นเพลิงลุกไหม้ขึ้นในรถ และลุกอย่างรวดเร็วจนวอดไปทั้งคัน พร้อมกับคลอกผู้หญิงคนขับตายคาที่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่า ผู้ตายเป็นใคร ส่วนคู่กรณีจะต้องสอบสวนให้ได้รายละเอียด เพื่อดำเนินคดีต่อไป.
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/513179
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook