(10 ต.ค.58) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทรัพยากรป่าไม้และงานป่าไม้จังหวัด ลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลรีสอร์ทตั้งแต่บริเวณทางขึ้นไปจนถึงภูทับเบิก บริเวณต.วังบาลและต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลรีสอร์ทต่างๆ โดยเฉพาะรีสอร์ทที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)จังหวัดเพชรบูรณ์จับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ โดยคดีส่วนใหญ่ศาลได้ตัดสินพิพากษาเรียบร้อยแล้ว และบางรายยังอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดี โดย นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (สาขาพิษณุโลก) นายชิต อินทรนก หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ นายประจักษ์ มิยา หัวหน้าหน่วยปฎิบัติการพิเศษที่ 38 ส่วนป้องกันเเละปราบปรามภาคเหนือ และนายสมศักดิ์ ชวนชื่น หัวหน้าป้องกันรักษาป่าที่เพชรบูรณ์ 2 (เขาค้อ) ร่วมทำการสำรวจ
จากการสำรวจในภาพรวมพบว่า รีสอร์ทที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่ยังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมไม่หยุด เพื่อเตรียมเปิดหรือขยายการบริการให้ทันช้วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ แต่ทั้งนี้ก็มีบางแห่งซึ่งหลังถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมดำเนินคดีได้ยอมปิดกิจการลง อย่างไรก็ตาม นายมานพและคณะยังมีโอกาสพบปะเจ้าของรีสอร์ทที่เคยถูกดำเนินคดีและศาลตัดสินพิพากษาไปแล้ว พร้อมทำการชี้แจงให้หยุดการก่อสร้างเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความเสียหายมากขึ้น เนื่องจากระหว่างนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานกับทางพนักงานอัยการเพื่อบังคับคดีหลังศาลชั้นต้นมีคำตัดสินแล้วและไม่มีการยื่นอุทธรณ์
ด้านนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่มาพักเต็นท์เช่าที่ลานกางเต็นท์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิกกล่าวว่า มาเที่ยวทับเบิกเป็นครั้งที่ 4 และทุกครั้งก็จะมานอนเต็นท์ตลอด แต่ปีหน้าหากมาอีกคงวางแผนจะไม่นอนเต็นท์แต่จะไปนอนบ้านพักที่อยู่รายล้อมยอดภูดีกว่า เพราะห้องน้ำก็สะดวก วิวทิวทัศน์สวยกว่าเพราะไม่ถูกบดบังและจะปิ้งย่างอะไรก็ทำได้ง่าย ฉะนั้นคนที่นอนเต็นท์จึงเหมือนถูกบีบหรือถูกตีกรอบให้ต้องไปนอนบ้านพัก
“เห็นด้วยที่จะมีการจัดระเบียบและหากเป็นไปได้และไม่สายไป ควรจัดแบ่งโซนให้เป็นสัดส่วน โซนไหนเป็นจุดกางเต็นท์ก็ไม่ควรมีบ้านพักรีสอร์ทมาบดบังหรือรบกวนสายตา ส่วนโซนบ้านพักหรือรีสอร์ควรอยู่รอบนอก หากทำได้จะทำให้ภูทับเบิกมีเสน่ห์มาก แต่หากเป็นแบบนี้นักท่องเที่ยวคงหนีนอนเต้นท์ไปนอนบ้านพักกันหมด”นักท่องเที่ยวรายนี้กล่าว
ขอขอบคุณที่มาข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1444478455&grpid=03&catid=19
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook