สมัยเด็กผมเป็นเด็กลำน้ำชี มหาสารคาม มีเรื่องสนุกสนานเยอะแยะเลยครับ แต่วันนี้ขอเล่าเรื่องผีหลอกวิญญาณสุดแสนจะน่าขนลุกขนพองสู่กันฟังแล้วกันครับ
ชีวิตเด็กท้องนาต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว ไม่ใช่สุขสบายแบบเด็กในเมืองใหญ่ ยิ่งพ่อแม่ร่ำรวยยิ่งเอาอกเอาใจ อยากได้อะไรก็เอาเงินซื้อมาพะนอลูกทุกอย่าง ส่วนเด็กลูกทุ่งต้องเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย หาปูหาปลา ยิงนกยิงหนูมาผัดมาแกง ยิ่งหน้าแล้งแบบนี้ต้องออกหาไข่มดแดงมาให้พ่อแม่ขาย…โดนมดกัดเจ็บแทบตายก็ต้องทนเอา
ก่อนจะถึงหน้านาค่อนข้างสนุกกับการหาของกินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง พวกผู้ใหญ่ก็เที่ยวหางูสิง นกคุ่ม สุ่มปลาในหนอง ส่วนเด็กๆ ก็ลงน้ำหาหอยหาปู หรือไม่ก็จับจิ้งหรีด กะปอม บางวันโชคดีได้แย้มาให้แม่แกง กินข้าวกันพุงกางไปทั้งบ้าน
เข้าป่าหาหน่อไม้ก็สนุกครับ!
ช่วงที่รอคอยให้ต้นกล้ามันโตจะได้ดำนาซะที ก็คือต้นหน้าฝนที่พระพิรุณเริ่มสาดซ่าลงมา บรรดาหน่อไม้สารพัดชนิดต่างแทงหน่อกันขึ้นมาล่อตาล่อใจชะมัด ไม่ว่าไผ่ตง ไผ่บง ไผ่สีสุก ไผ่รวก ไผ่ซาง…จะกินสดหรือดองใส่ไหไว้กินตอนหน้าแล้งได้ทั้งนั้น
หน่อไม้รวกกินสด…คือเอามาแกงกับใบหญ้านาง ใส่เห็ดหูหนูกับยอดชะอม น้ำแกงต้มน้ำปลาร้า ปรุงรสเผ็ดเค็มตามใจชอบ รับรองว่าอร่อยที่ซู้ดดด…
หน่อไม้ที่นิยมนำมาดองคือ ไผ่ตง ไผ่สีสุก ไผ่ซาง เป็นต้น
พ่อกับผมมักเข้าป่าหาหน่อไม้กันเป็นประจำ อุปกรณ์ก็มี มีดพร้า เสียม กระบุงใส่หน่อไม้ รวมทั้งหนังสติ๊กกับกระสุนดินเหนียวปั้น สำหรับยิงนกยิงหนูอีกด้วย
ไม่ว่ากอไผ่ชนิดไหนล้วนแต่รกไปด้วยใบแห้งๆ สุมกันเป็นกองพะเนิน พ่อจะคอยเตือนให้เอาเสียมเขี่ยดูก่อนให้แน่ใจ ว่าไม่มีงูหรือแมงป่องที่ซุกซ่อนอยู่ข้างใน เพราะอาจจะโดนมันขบกัดเอาได้ง่ายๆ
ต่อจากนั้นจึงเอามีลิดกิ่งหนามจนถึงโคนต้น แล้วค่อยมองหาหน่อโตๆ หน่อยก่อนจะใช้เสียมขุดเอา… เผลอๆ โชคดียังอาจเจอะเจอเห็ดหูหนูป่าตามขอนไม้ผุๆ ที่โดนฝนเข้าก็งามสะพรั่งขึ้นมา ถือว่าเป็นลาภปากวันนี้ก็แล้วกัน
จนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ!
วันนั้นไม่รู้ว่ามีมือดีที่ไหนดอดมาก่อนเรา ไม่ว่าไผ่รวกไผ่ตงกอไหนก็ล้วนแต่เพิ่งโดนขุดหน่องามๆ ไปกินหมดแล้ว แต่เราไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกครับ พ่อออกเดิน ดุ่ยๆ นำหน้าผมก็ตามติดไม่ลดละ…
ให้มันรู้ไปซีน่าว่าไอ้พวกมือดีมันจะขุดหน่อไม้ไปกินจนหมดป่าน่ะ
นั่นไง! ผ่านกอไผ่ตายซากนั่นไปหน่อยก็เห็นไผ่สีสุกกอใหญ่ กำลังไหวโอนเหมือนจะทักทายอยู่ในสายลมเต็มตา
พ่อปราดเข้าไปใช้เสียมเขี่ยใบไผ่ที่สุมกันอยู่เต็ม…ไม่มีงูเงี้ยวเขี้ยวขออะไรให้ต้องหวั่นกลัว… และแล้วเราก็มองเห็นหน่อไม้โตๆ งามๆ แทงหน่อขึ้นมาล่อใจ แต่พ่อออกจะขี้ระแวงไปหน่อยเลยหยุดชะงัก ขมวดคิ้วย่น เหลียวซ้ายแลขวาอย่างสงสัยอะไรบางอย่าง ตามสัญชาตญาณของคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาโชกโชน
“ทำไมไอ้พวกนั้นไม่มาขุดหน่อไม้งามๆ นี่ไปกินวะ?”
“ช่างมันเป็นไร! เรารีบขุดกันก่อนเถอะพ่อ…”
ผมร้อง ก่อนที่เสียงจะขาดหายเมื่อมีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นตรงหน้าเรานั่นเอง!
คุณพระช่วย! ไผ่สีสุกที่ดูขึ้นแน่นขนัดกลับไหวโอนไปมาเสียงเอี๊ยดอ๊าดผิดหู ทั้งๆ ที่ลมสงัด สรรพสิ่งเงียบเชียบ ทำให้ได้ยินเสียงกอไผ่เจ้ากรรมดังกระหึ่มขึ้นทุกที
นรกเป็นพยาน! พริบตานั้นเอง กอไผ่แน่นหนาก็แหวกออกจากกันเหมือนโดนมือยักษ์จับกระชาก มองเห็นร่างดำๆ ของหญิงชายคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเราเขม็ง…อ้าปากหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่ มีเสียงใดๆ ดังออกมาเลย เล่นเอาเราผงะหน้ากันทั้งสองคน
อุปกรณ์หาหน่อไม้ ไม่ว่ามีด เสียม และกระบุงหล่นจากมือ พ่อคว้าแขนผมแล้วกระโจนอ้าวไปข้างหน้าเหมือนลมพัด…เหนื่อยแทบตายกว่าจะเจอพวกมือดีที่ขุดหน่อไม้ไปก่อนหน้าเรา
ปรากฏว่าเคยมีผัวฆ่าเมียด้วยมีดแล้วเชือดคอตายตามเพราะความหึง…ที่โคนกอไผ่ผีสิงนั่น พ่อผมรู้เรื่องนี้ดีแต่จำผิดกอจนไปขุดหน่อไม้ที่กอไผ่ผีสิงเข้าอย่างจัง…บรื๋อส์!
ที่มา : thenightshock’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook