เห็นเรื่องภูทับเบิก กำลังเป็นประเด็นร้อนๆ เกี่ยวเรื่องรีสอร์ท ที่ผุดขึ้นมากมายในปัจจุบัน …ผมเองไปภูทับเบิก รวมแล้ว 5 ครั้ง เลยขอรีวิวย้อนหลังเมื่อไปครั้งแรก เมื่อต้นปี 2550 และครั้งที่สอง เมื่อปลายปี 51 ลองไปดูความเปลี่ยนแปลงกันครับ
….ต้นปี 51 เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยือนภูทับเบิก ตอนนั้นยังไม่รู้อะไรมาก รู้แต่ว่ามันหนาวและเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำ จะไปหาอากาศหนาวครับ
ยังสภาพธรรมชาติเดิมๆ ไม่มีรีสอร์ทหรือบ้านพักใดๆทั้งสิ้น นอกจากบ้านของชาวเขา
เด็กๆชาวเขา ป่านนี้คงโตเป็นหนุ่มสาว หรืออาจเป็นเจ้าของรีสอร์ทสักแห่ง บนนี้ก็เป็นได้
มาครั้งแรก…ตกใจ เฮ้ย ที่นี่มีซากุระด้วยเหรอเนี่ย กำลังบานสะพรั่งเลย
สมัยนั้น ไม่มีที่พัก ไม่มีวิวตึก วิวรีสอร์ท หรือสิ่งก่อสร้างใดๆมาบดบังความงาม….ใครจะมาเที่ยว นอนเต้นท์อย่างเดียว สัมผัสธรรมชาติเต้มที่ครับ
ตรงจุดนี้คือ จุดสูงสุดของภูทับเบิก ณ เวลานั้น ไม่มีที่พักใดทั้งสิ้น เต้นท์เท่านั้นครับ
โล่ง สบาย มองเห็นเนิน Heaven hill ยังไม่มีใครไปจับจองพื้นที่ ต่างกับภาพ ณ วันนี้มากมาย
มีเพียงที่ทำการ 1 หลัง
ส่วนความหนาวเย็นนั้น ไม่ต้องบอกเลยครับ น้ำมันพืชที่ว่าไม่เป็นไข…
หลังจากนั้น ปลายปี 51 ผมก็ได้กลับไปเยือนภูทับเบิกอีกครั้ง ครั้งนี้เริ่มเห็นความแตกต่างได้เลย คือคนมาเยอะมากขึ้น แต่รีสอร์ทหรือบ้านพักต่างๆ ยังไม่มีเหมือนเดิม ได้สัมผัสธรรมชาติเต็มๆ นอนเต๊นท์เช่นกัน
จากครั้งแรก กับครั้งนี้ ห่างกันเกือบ 2 ปี สิ่งแรกที่มาเจอบนภูทับเบิก คือร้านกาแฟตรงนี้ครับ ปัจจุบันก็คือตรงจุดแวะชมวิว พร้อมๆกับปริมาณคนและรถ เยอะขึ้นมาก…
และครั้งนี้ ผมก็ได้สมาชิกใหม่มาด้วย เจ้าลูกสาวตัวน้อยวัย 6 เดือน พามานอนเต๊นท์สัมผัสความหนาวครับ ( ขอโชว์ลูกสาวหน่อย )
ตวามสวยงามยังคงมีเช่นเดิม
ใครอยากนอนตรงไหน เลือกตามใจชอบ กางเต๊นท์ ได้บรรยากาศแค้มปิ้งกลางธรรมชาติ ไม่เหมือนตอนนี้ ถึงจะนอนเต็นท์ ก็รายล้อมด้วยที่พักและรีสอร์ทเต็มไปหมด
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นี่คือ ดูดาวบนดินครับ สะกดสายตาให้นั่งทนหนาวดูได้เพลินเลย
ยามเช้า
มาคราวนี้ นอกจากซากุระ ยังมีดอกผักกาดเหลืองๆเต็มท้องทุ่งอีก ปัจจุบันพื้นที่พวกนี้คงกลายเป็นรีสอร์ทไปแล้ว…
ทีพักสบายๆไม่มี…นี่สิ ถูกใจกว่า
สภาพถนนหนทาง ก็ยังลำบากในการขึ้นมาถึงบนนี้ ต่างกับตอนนี้มาก
ก็ไม่รู้จะรีวิวอะไรมากนะครับ แค่นึกถึงภาพเก่า กับภูทับเบิกตอนนี้….ปิดท้ายด้วยภาพพาโนรามา กว้างๆสักภาพ
ยังไงก็ยังชอบภูทับเบิกอยู่ และก็รับสภาพความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าถามว่าเสียดายมั๊ย….เสียดายครับ
ที่มา http://pantip.com/topic/34258367‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook