LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
จนท.ป่าไม้เดินหน้าจับรีสอร์ตผุดใหม่รุกภูทับเบิกเพิ่มอีก 3 คดี รวบนายทุนจากกรุงเทพฯ พบหลักฐานชัดสัญญาเช่าที่ดินชาวม้งยาว 15 ปี จ่ายแค่ 2 แสนบาท
ความพยายามแก้ไขปัญหานายทุนบุกรุกปลูกสร้างที่พักรีสอร์ตและจัดระเบียบเพื่อรักษาความเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติของพื้นที่ภูทับเบิกจ.เพชรบูรณ์และจัดระเบียบเพื่อรักษาความเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติล่าสุด นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก เข้าทำการตรวจสอบอิงฟ้า รีสอร์ต ของนายวิรัตน์ คำบุญ เป็นนายทุนจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยจับกุมไปแล้วเมื่อปลายปี 2557 และพบว่ามีการเปิดพื้นที่ใหม่โดยเช่าที่ดินจากชาวม้งในพื้นที่
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้พบหลักฐานนายวิรัตน์ทำสัญญาเช่าที่ดินระยะเวลา 15 ปี เป็นเงิน 200,000 บาท ชำระงวดแรกไปแล้ว 1 แสนบาท และยังพบว่ามีการเปิดพื้นที่ใหม่ประมาณ 2 ไร่ เพื่อก่อสร้างบ้านพัก 3 หลัง เป็น 6 ห้อง จึงทำบันทึกการตรวจยึดบ้าน 3 หลัง ถังบรรจุน้ำจำนวน 5 ใบ ใบละ 3,000 ลิตร เนื้อที่ 0-3-44 ไร่ พร้อมอุปกรณ์สิ่งก่อสร้างและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขับเคลื่อนจำนวน 1 ชุด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า ดำเนินคดี
นอกจากนี้นายมานพยังเข้าตรวจยึดดำเนินคดีรีสอร์ตในพื้นที่ภูทับเบิกเพิ่มอีก 2 คดี ได้แก่ รีสอร์ตไม่มีชื่อ แต่ไม่ได้ตัวผู้กระทำผิด เนื้อที่ 1-2-24 ไร่ พร้อมของกลางบ้านมุงสังกะสี 1 หลัง มุงด้วยหญ้าคาจำนวน 25 หลัง โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถังบรรจุน้ำขนาด 5,000 ลิตร จำนวน 4 ถัง ขนาด 3,000 ลิตร จำนวน 1 ถัง ห้องน้ำ 2 ห้อง อีกรายชื่อสายหมอกรีสอร์ต ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาเช่นกัน เนื้อที่ 0-1-28 ไร่ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดบ้านจำนวน 6 หลัง
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการส่วนกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ภูทับเบิกทั้งหมด 47,000 ไร่ อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 กฎหมายฉบับนี้ยังไม่มีมาตรา 25 คือ ให้อำนาจอธิบดีกรมป่าไม้สามารถสั่งรื้อถอนสำหรับสิ่งก่อสร้างที่พิสูจน์แล้วว่าบุกรุกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเหมือนพ.ร.บ.ป่าไม้ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นรีสอร์ต 27 ราย ที่กรมป่าไม้เคยเข้าจับกุม และ 10 ราย ที่ศาลพิพากษาคดีสิ้นสุดแล้ว โดยให้ผู้กระทำผิดและบริวารออกนอกพื้นที่ไปนั้น ขั้นตอนที่กรมป่าไม้จะต้องทำต่อไปคือ ต้องบังคับคดีให้จำเลยทั้งหมดออกนอกพื้นที่ไปจริงๆ ส่วนของกลางอยู่ระหว่างปรึกษากันในกรมว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นอาจจะต้องร้องศาลเพิ่มเติมเพื่อขอรื้อทิ้งทั้งหมด ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดระเบียบตามโรดแมปที่กำหนดเอาไว้
หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรกล่าวว่า จากการลงตรวจสอบอย่างละเอียดในพื้นที่ภูทับเบิก อยากชี้แจงว่าในพื้นที่ 47,000 ไร่ ไม่ได้ถูกนำมาสร้างรีสอร์ตทั้งหมดอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ใช้สร้างรีสอร์ตไปแค่ 1,200 ไร่เท่านั้น ที่เหลือยังคงเป็นชุมชน พื้นที่เกษตรกรรมและป่าธรรมชาติ อย่างไรก็ตามพื้นที่เหล่านี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะ มลพิษ และจราจรติดขัด เพราะไม่มีการจัดระเบียบการท่องเที่ยว
เมื่อถามว่าที่ไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีรีสอร์ต 62 แห่งผิดกฎหมายชัดเจน จะทำอย่างไรกับรีสอร์ตเหล่านี้ นายชีวะภาพกล่าวว่า ทั้ง 62 แห่ง มีทั้งที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจะต้องให้หยุดดำเนินการไปก่อนทั้งหมด รวมทั้งห้ามก่อสร้างเพิ่มอีกเด็ดขาด โดยในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่จะนำป้ายห้ามก่อสร้างใดๆ ในพื้นที่ภูทับเบิกไปปักประกาศให้ทุกคนทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวบนภูทับเบิกในช่วงวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลขึ้นไปท่องเที่ยวบนภูทับเบิกเป็นจำนวนมาก จนทำให้การจราจรหนาแน่นและรถติดยาวเหยียด โดยเฉพาะโซนบริเวณตั้งแต่ปากทางเข้าหมู่บ้านไปจนถึงบ้านทับเบิก โดยเฉพาะทางแยกขึ้นจุดสูงสุดและโซนบริการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน รถยนต์ของนักท่องเที่ยวหนาแน่นจนเกิดการเบียดเสียด รถของนักท่องเที่ยวต้องใช้เวลานานมากกว่าจะขยับออกไปได้
นายซัว เถารักตระกูล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก กล่าวว่า สภาพภูทับเบิกขณะนี้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากจนเกินกว่าจะรับได้แล้ว อยากฝากเตือนนักท่องเที่ยวด้วยว่า หากต้องการมาภูทับเบิกให้ตรวจเช็กสภาพการจราจรให้ดีก่อน เพราะไม่อยากให้มารถติดและเกิดอาการหงุดหงิดเที่ยวไม่สนุก
“ภูทับเบิกตอนนี้แทบแตกแล้ว ประเมินนักท่องเที่ยวเวลานี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน เดินทางเข้ามาตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา จนถึงเวลานี้รถนักท่องเที่ยวก็ยังหลั่งไหลกันขึ้นมาไม่หยุดทำให้รถติดหนัก โดยเฉพาะถนนปากทางเข้าถึงแยกขึ้นจุดสูงสุดและบริเวณภูสวรรค์ รถติดยาวเหยียดไปถึงหมู่บ้าน เพราะถนนกว้างแค่ 4 เมตร แต่รถยนต์วิ่ง 3 ช่องทาง ต่างก็แย่งกันไปทำให้เบียดเสียดกันจนรถติด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หงุดหงิดและเครียด บางรายถึงกับมีอารมณ์ลงมาต่อว่าพนักงานที่ช่วยโบกรถ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้ประสานงานไปยัง สภ.หล่มเก่า กระทั่งมีการจัดส่งตำรวจมาช่วย 20 นาย และเวลานี้ใช้วิธีกักรถนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาบนภูทับเบิกไว้ชั่วคราวและจะปล่อยรถขึ้นเป็นช่วงๆ เพื่อให้ระบายรถนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางกลับให้ลงมาก่อน” นายซัวกล่าว
นายซัวกล่าวว่า ตนเองขับรถลงมาที่ อ.หล่มสัก ยังต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งปกติใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ตอนจะกลับขึ้นไปยังไม่รู้ว่าจะใช้เวลาสักกี่ชั่วโมง เพราะวันนี้เป็นวันหยุดวันแรกนักท่องเที่ยวกำลังทยอยแห่ขึ้นภูทับเบิกไม่หยุด ส่วนวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารหรือสิ่งของเครื่องใช้ไม่พอบริการนักท่องเที่ยว ต้องขับรถวิ่งขึ้นลงระหว่างภูทับเบิกกับหล่มสักหลายเที่ยว แทบทุกรีสอร์ตก็อยู่ในสภาพเดียวกัน
ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1445660646‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook