LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันพฤหัสที่ 19 ธันวาคม 2024
ข่าวเด่นเพชรบูรณ์

ดัชนีความสุขพุ่งแรง “เพชรบูรณ์” ในมุมมอง “พ่อเมือง”

สัมภาษณ์

“เพชรบูรณ์จะบอกว่าเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ก็ได้นะ บางคนฟังแล้วอาจจะไม่ชอบ เพราะเหมือนเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ แต่ถ้าเราพูดว่าสโลว์ไลฟ์ คือ ชีวิตที่สบาย ๆ ไม่ถึงกับเป็นเมืองที่ชีวิตจะต้องเร่งรีบหรือ แข่งขันอะไรกัน แต่ว่าเป็นเมืองที่มีความสุข มีความรักในถิ่น มีวัฒนธรรมประเพณีของตัวเอง เราจึงมีวิสัยทัศน์ของเราว่า เพชรบูรณ์ดินแดนแห่งความสุขของคนอยู่และผู้มาเยือน” เกริ่นนำกับทีมงาน “ประชาชาติธุรกิจ” จาก “บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์” ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์

ผู้ว่าฯบัณฑิตย์อธิบายต่อว่า โดยพื้นฐานจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองเกษตรกรรม มีพื้นที่ทั้งหมด 7.9 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 2.9 ล้านไร่ ที่เหลือ 5 ล้านไร่นั้นเป็นพื้นที่เกษตรถึง 4 ล้านกว่าไร่ มีพืชเศรษฐกิจหลัก คือ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพารา และอ้อย โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพชรบูรณ์คือแหล่งปลูกใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1 ล้านไร่ ขณะที่อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่พยายามให้เกษตรกรเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาปลูกอ้อยแทน ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกราว 3.2 แสนไร่ นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องของเกษตรปลอดภัยด้วย

14470470211447047053l

“เขาค้อ” ฮับดูแลผู้สูงอายุ

ชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์รับรู้กันว่าเป็นเมืองในหุบเขา โดยมีเทือกเขาเพชรบูรณ์โอบล้อมจังหวัดเป็นรูปเกือกม้า ทำให้มีภูมิประเทศที่สวยงาม และอากาศเย็นตลอดทั้งปี เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยม โดยเฉพาะเขาค้อหรือภูทับเบิก อีกทั้งขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของชาวอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ที่เรียกว่า ชาวไทหล่ม ก็มีเอกลักษณ์ ทั้งภาษา สำเนียง การพูด วัฒนธรรมการแต่งกาย อาหารการกินของตัวเอง

ขณะที่อำเภอเมืองก็มีประเพณีที่เก่าแก่ คือ ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก โดยวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพิธีที่มีการหล่อหลอมดวงใจของประชาชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์มาประกอบพิธี รวมทั้งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพที่เก่าแก่ และความโดดเด่นในเรื่องของอาหารที่มีชื่อเสียงไปทั้งประเทศ เช่น ไก่ย่างวิเชียรบุรี นี้เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวยังติดใจแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

พ่อเมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2557 ตัวเลขการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 1.7 ล้านคน เป็นคนไทย 96% มีตัวเลขการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.55 วัน ค่าใช้จ่ายต่อคน 1,234 บาท/คน/วัน คิดเป็นเงินรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 5,432 ล้านบาท จากสถิติพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งปี 2558 นี้คาดว่าตัวเลขอาจขึ้นมาถึงเกือบ 2 ล้านคน

แต่เนื่องจากหลายพื้นที่ในที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังอยู่ในเขตที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ อยู่ในเขตของป่าไม้ หรืออุทยานแห่งชาติ เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ไม่มีนักลงทุนมาลงทุนที่พักอย่างเต็มรูปแบบ หรือแบบมีมาตรฐานขนาดใหญ่ ยกเว้นในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ คือ ตำบลแคมป์สน ที่จะมีการลงทุนโรงแรมขนาดใหญ่ เช่น อิมพีเรียล ภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท เป็นต้น ซึ่งถ้าปัญหานี้ปลดล็อกได้ ท่องเที่ยวก็มีโอกาสโตแน่นอน

“มองว่าศักยภาพจังหวัดเพชรบูรณ์ยังทำอะไรได้เยอะ เช่น การเป็นฮับของการดูแลผู้สูงอายุที่เขาค้อ หรือที่พักผ่อน เพราะเรามีอากาศที่ดี แนวจังหวัดมีกระแสลมพัดผ่านตลอดทั้งปี คือ ช่วงฤดูหนาว เราจะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้ามา พอถึงช่วงฤดูร้อนเราก็จะมีลมตะวันตก หรือลมฝ่ายใต้พัดเข้ามา ดังนั้น จะมีอากาศเคลื่อนตัวตลอดทั้งปี เราจึงไม่มีปัญหาหมอกควัน”

2 ทำเลทองแคมป์สน-หล่มสัก

พ่อเมืองเพชรบูรณ์บอกอีกว่า ความได้เปรียบของจังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากจะอยู่กึ่งกลางของประเทศแล้ว ยังอยู่ในแนวระเบียง East West Economic Corridor คือ แม่สอด จ.ตาก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก อ.เขาค้อ หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ไปออกขอนแก่น มุกดาหาร ต่อไปที่ดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งมองว่าอนาคตช่วงตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ บนเส้นทางหลวงหมายเลข 12 จะต้องมีการก่อสร้างอย่างคึกคักแน่นอน เพราะอยู่ในโซนที่อากาศดี จึงสามารถเป็นทั้งที่พัก ศูนย์บริการ และแหล่งท่องเที่ยว

“ขณะที่บริเวณสี่แยกหล่มสัก อนาคตตั้งเป้าว่าจะเป็นสี่แยกอาเซียน ซึ่งจะเป็นสี่แยกของศูนย์กระจายสินค้า ศูนย์พักรถ ตลาดพืชผลการเกษตร เพราะถ้ามองศักยภาพของหล่มสักก็มาในระเบียงเดียวกันกับพิษณุโลก ซึ่งเคยบอกว่าเป็นสี่แยกอินโดจีน แต่ขณะนี้รถติดหนักมาก ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ในปีนี้ได้รับงบประมาณเตรียมขยายถนน 4 เลน ตั้งแต่แยกหล่มสักไปจนถึงหล่มเก่าประมาณ 20 กิโลเมตร ต่อจากเส้นทางจากเขาค้อที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จไปในปีนี้เช่นกัน”


บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์

เร่งพัฒนาสินค้าโอท็อป

ปัจจุบันรายได้ของโอท็อปเพชรบูรณ์อยู่ที่ปีละ800ล้านบาทสินค้าหลักคือ ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย แปรรูปผลผลิตการเกษตร สมุนไพร ของใช้ซึ่งทางจังหวัดได้พยายามที่จะพัฒนาของฝากที่ระลึก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในจังหวัด ได้มาจับจ่ายซื้อไป และสามารถที่จะกระจายรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัด

เพราะขณะนี้สินค้าต่าง ๆ ยังอยู่ในระดับพื้น ๆ ที่ยังไม่โดดเด่นนัก ส่วนมากเป็นผลิตภัณฑ์การเกษตร การแปรรูปจากมะขามและสมุนไพร ฉะนั้น เราก็ต้องทำในส่วนนี้ต่อเพื่อเชื่อมโยงกันระหว่างภาคเกษตรกับธุรกิจของท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการที่ทำอยู่ เช่น บริษัท ไนน์ แทมมารินด์ ที่พยายามผลักดันอุตสาหกรรมมะขาม โดดเด่นขึ้นได้ด้วยตัวเอง

“จังหวัดเพชรบูรณ์คือเมืองที่มีผลผลิตทางการเกษตร เป็นเมืองเกษตร และเป็นเมืองที่ยังคงมีวิถีชีวิตเป็นชนบท มีวัฒนธรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ และมีความเป็นตัวตนของตนเองค่อนข้างจะมาก ฉะนั้น แนวทางการพัฒนาของจังหวัดเพชรบูรณ์ เราต้องส่งเสริมตามศักยภาพของพื้นที่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และยกระดับสินค้าโอท็อป ทั้งหมดเป็นจุดยืนการพัฒนาของจังหวัดที่ได้กำหนดไว้ โดยให้ก้าวไปสู่การเป็นเมืองแห่งความสุขของคนอยู่และผู้มาเยือน” พ่อเมืองเพชรบูรณ์กล่าวตอกย้ำวิสัยทัศน์

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1447047021

‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวเด่นเพชรบูรณ์ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด