LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2024
ข่าวเด่นเพชรบูรณ์

นอภ.หล่มเก่าลุยรีสอร์ตภูทับเบิก สั่งหยุดบริการตามคำสั่ง อบต.วังบาล

14493865541449386683l

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวจ.เพชรบูรณ์ รายงานว่า นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า นายอนุชิต กำนันตำบลวังบาล นายบรรจง แสนสุข ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)วังบาล ร.ท.ยุทธศักดิ์ สิงคราช หัวหน้าชุดปฎิบัติมวลชน กองพันทหารช่างที่ 8 นายวันชัย ชยารมณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 บ้านทับเบิก พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ อบต.วังบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า ได้นำคำสั่ง อบต.วังบาล เดินทางไปแจ้งต่อรีสอร์ตที่มีชื่อในคำสั่งรวม 5 แห่ง เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อห้ามไม่ให้เปิดบ้านหรือห้องพักจำนวน 22 หลัง ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ภายหลังคณะทำงานตรวจสอบพบว่าไม่มั่นคงแข็งแรง และตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดเอียงสูงเสี่ยง ทำให้เกิดภัยและเป็นอันตรายต่อผู้เข้าพัก โดยหยิบยก พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาบังคับใช้ พร้อมระบุโทษหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้คณะนายชาญชัยได้เดินทางเข้าไปในรีสอร์ต 4 แห่ง ได้แก่ รีสอร์ตโฮมสเตย์ลุงท้าย รีสอร์ตประชาภูทับเบิก บ้านชมวิวรีสอร์ต และรีสอร์ตทับเบิกอินดี้ จากนั้นมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าของผู้ประกอบการ ซึ่งภายหลังมีการลงชื่อรับทราบคำสั่งแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศคำสั่งดังกล่าวไว้ที่หน้าอาคารบ้านพัก หรือสำนักงานติดต่อลูกค้าของรีสอร์ตดังกล่าว ส่วนที่เหลือเป็นรีสอร์ตไม่ทราบชื่ออีกแห่ง เนื่องจากข้อมูลสถานที่ตั้งไม่ชัดเจนว่าตั้งอยู่ในเขตหมู่ 16 บ้านทับเบิก หรือหมู่ 8 บ้านดอยน้ำเพียงดิน นายชาญชัยจึงแจ้งต่อคณะเจ้าหน้าที่ในท้องที่ว่า ให้นำคำสั่งเข้าแจ้งเจ้าของรีสอร์ตในภายหลัง เนื่องจากเป็นช่วงเย็นแล้วเกรงไม่สะดวก ทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องนำคำสั่งมาแจ้งและปิดประกาศนั้น นายชาญชัยยังแจ้งให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อทางอำเภอได้ภายใน 15 วัน หากคิดว่าขัดข้องและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยนับจากวันที่ผู้ประกอบการได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามทางเจ้าของผู้ประกอบรีสอร์ตได้ต่อรองขอเปิดให้บริการในช่วงวันหยุด 5-6 ธันวาคมนี้ไปพลางก่อน เนื่องจากนักท่องเที่ยวได้ติดต่อจองห้องพักไว้แล้ว และบางส่วนได้ทยอยเข้าพักแล้วเช่นกัน ซึ่งนายชาญชัยและคณะเจ้าหน้าที่ยินยอมผ่อนปรนให้

นอกจากนี้ระหว่างที่นายชาญชัยพร้อมคณะเข้าไปชี้แจงบรรดาเจ้าของรีสอร์ตส่วนใหญ่ต่างตัดพ้อต่อว่าช่วงเริ่มก่อสร้างไม่เห็นมีส่วนราชการหรือเจ้าหน้าที่มาชี้แจงตักเตือนหรือห้ามปรามก่อน โดยเฉพาะในรายประชารีสอร์ตภูทับเบิก ซึ่งมีนางสุชาดา แซ่สง อายุ 29 ปีเป็นเจ้าของ ถึงกับอดกลั้นน้ำตาไม่ไหว ได้ร่ำไห้ออกมาต่อหน้านายชาญชัยและคณะเจ้าหน้าที่ หลังได้รับทราบว่าคำสั่ง อบต.วังบาล แจ้งให้รื้อถอนบ้านพักทั้งรีสอร์ต ที่มีทั้งหมดจำนวน 5 หลัง

นางสุชาดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า หากต้องรื้อถอนบ้านพักทั้งหมดก็คงหมดเนื้อหมดตัว เนื่องจากตนและสามีนำเงินเก็บสะสมทั้งชีวิต และบางส่วนยังกู้ยืมมาจากญาติพี่น้อง รวมทั้งหมดราว 1 ล้านบาทเศษ มาลงทุนสร้างบ้านพักรีสอร์ต และยังไม่ได้ทุนคืน เพราะเพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน

“ช่วงที่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอาคารบ้านพักก็ไม่อยู่ แต่มาทราบภายหลังว่าบ้านพักอยู่ในกลุ่มที่ถูกรื้อถอน ก็นอนไม่หลับมาตลอด อยากสอบถามและอยากรับฟังถึงสาเหตุที่ถูกให้รื้อเป็นเพราะอะไร ที่ดินเป็นของครอบครัวและไม่เคยประสบปัญหาดินสไลด์หรือโคลนถล่มมาก่อน ส่วนตัวอาคารก็คิดว่ามีความมั่นคงพอ เพราะช่วงที่ก่อสร้างก็คิดเราต้องอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้นชีวิตของเราและครอบครัวก็คือหลักประกัน ตอนดำเนินการก่อสร้างก็ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่คนไหนมาบอกหรือห้ามปราม เนื่องจากเห็นคนอื่นทำได้และมีรายได้ดี จึงตัดสินใจลงทุนบ้าง นอกจากนี้เนื่องจากเขียนหนังสือไม่เป็นและไม่รู้จะไปร้องอุทธรณ์กับใครที่ไหน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญชัยจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยเขียนคำร้องให้แก่นางสุชาดาและให้เร่งยื่นอุทธรณ์โดยด่วน จากนั้นนายชาญชัยพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจดูบ้านพักซึ่งปลูกสร้าง 2 ชั้นด้วยความสงสัย เนื่องจากสภาพภายนอกแลดูแข็งแรงมั่นคง โดยมีนายประชา แซ่เถา สามีนางสุชาดานำตรวจสอบ กระทั่งพบว่าเสาอาคารเป็นเสาคอนกรีตสำเร็จและใช้ไม้ทำเป็นคานรองรับแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป จนทำให้นายชาญชัยและคณะเจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ที่ร่วมคณะถึงกับอึ้งและยอมรับมีความสุ่มเสี่ยงจริง โดยมีการถามย้ำถึงผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งนายประชาระบุว่า ใช้ช่างก่อสร้างในหมู่บ้านและระหว่างก่อสร้างทางผู้รับเหมาก็ยืนยันว่า คานไม้แบกรับน้ำหนักแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปได้สบายไม่เป็นปัญหา จากนั้นนายประชายังต่อรองโดยยินยอมจะปรับปรุงแก้ไข โดยพร้อมรื้อถอนเป็นบางส่วน เพื่อให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ นายชาญชัยจึงให้เร่งทำเรื่องขออุทธรณ์เพื่อจะได้พิจารณาให้
ข่าวยังแจ้งด้วยว่า ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่นำคำสั่งเข้าไปแจ้งกับทางรีสอร์ต เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวทยอยเข้าพักกันหนาแน่น กระทั่งทำให้การเดินทางมาที่รีสอร์ตดังกล่าวของคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้สร้างความสงสัยให้แก่นักท่องเที่ยวเนื่องจากก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และชุดพยัคฆ์ไพรกรมป่าไม้ นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมรีสอร์ตหลายแห่งจนเป็นข่าวแพร่สะพัด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงและอ้างว่าเป็นการมาตรวจความเรียบร้อยและติดตามดูการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น

อนึ่งสำหรับบ้านหรือห้องพักรีสอร์ตในคำสั่ง อบต.วังบาล ที่มีชื่อสั่งให้ห้ามเข้าหรือให้ออกจากพื้นที่อาคารหรือสถานที่กำหนดได้แก่ 1.บ้านชมวิว 9 หลังประเภทอาคารที่พักชื่อผู้ประกอบการ นายอนุวัติ แซ่เถา 2.โฮมสเตย์ลุงท้าย 2 หลัง ประเภทอาคารที่พัก ชื่อผู้ประกอบการนายท้าย แซ่สง 3.ประชารีสอร์ตภูทับเบิกจำนวน 5 หลัง ประเภทอาคารที่พัก ชื่อผู้ประกอบการนายประชา แซ่เถา 4.ทับเบิกอินดี้ จำนวน 1 หลัง ประเภทอาคารที่พัก ชื่อผู้ประกอบการ นายมา แซ่สง 5.สถานประกอบการไม่มีชื่อ จำนวน 5 หลัง โดยทั้งหมดตั้งอยู่หมู่ 16 ต.วังบาล รวมอาคารที่พักสั่งห้ามเข้าหรือให้ออกจำนวน 22 หลัง

ส่วนคำสั่ง อบต.บ้านเนิน มีรายชื่อรีสอร์ตทับเบิกอีโคแคมป์ จำนวน 28 ห้อง ประเภทห้องพักเพียงแห่งเดียว ที่สั่งห้ามให้บริการผู้เข้าพักและให้ออกจากสถานที่กำหนด อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่อบต.บ้านเนินได้นำคำสั่งไปแจ้งและปิดหน้าสำนักงานรีสอร์ตดังกล่าวแล้ว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า  รีสอร์ตที่ได้รับคำสั่งจาก อบต.วังบาล ห้ามให้บริการห้องพักที่ไม่มั่นคงปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ยังคงผ่อนปรนให้ จนกว่าจะถึงระยะเวลาสิ้นสุดการยื่นอุทธรณ์ 15 วัน ส่วนรีสอร์ตที่ตกค้างเหลืออีก 1 แห่ง ที่ต้องแจ้งคำสั่งอบต. ซึ่งเดิมแจ้งว่าอยู่ในเขต ต.วังบาล แต่หลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 8 บ้านดอยน้ำเพียงดิน ต.บ้านเนิน และเป็นรีสอร์ตที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว โดยสภาพรีสอร์ตในปัจจุบันไม่มีการดำเนินกิจการอย่างใด แต่ทั้งนี้หลังเจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นของ อบต.บ้านเนินแล้ว จึงนำไปปิดแจ้งไว้ที่รีสอร์ตดังกล่าว

ที่มาhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1449386554 

 ‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวเด่นเพชรบูรณ์ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด