LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
อากาศดี แสงแดดสดใส ลมแรง ได้สัมผัสสายลมต้นฤดูหนาว ไปพร้อมๆ กับการปั่นจักรยานตะลุยทุ่งหญ้าสะวันนา บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า บอกเลยว่า เป็นการเที่ยวที่ได้อารมณ์แบบ… ฟินสุดๆ
ทริปนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ขอนำเสนอทริปปั่นจักรยานบนเขา ชวนนักปั่นฝีเท้าดีพาเจ้า “เสือภูเขา” คู่กาย ไปลุยอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงที่ สล.8 (หนองแม่นา) ในตำบลหนองแม่นา ตำบลเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทริปนี้ปั่นกัน 60 กว่ากิโลเมตร
ทุ่งแสลงหลวง หรือที่รู้จักกันว่า ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย ในแต่ละฤดูจะมีเสน่ห์ แตกต่างกันออกไป แม้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมทุ่งหญ้า และป่าอันอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่น่าหลงใหลที่สุดของทุ่งแสลงหลวงต้องเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม หรือช่วงฤดูหนาว
ทิวเขาทอดยาวไกล
-1-
เดินทางกันแต่เช้าตรู่ จุดหมายแรกอยู่ที่ “ทุ่งนางพญาเมืองเลน” ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 14 กิโลเมตร “เสือภูเขา” ทำหน้าที่ของมันอย่างดี
ทริปครั้งนี้ บรรยากาศโดยรวมถือว่าดี แต่ยังมีฝนหลงฤดูปรอยลงมาบ้าง ทำให้ดินลูกรังแปรสภาพเป็นดินโคลนในบางช่วง ทางไม่เรียบแบบนี้ แม้จะเป็นอุปสรรคแก่นักปั่นอยู่บ้าง แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
จุดกางเต็นท์พักแรม
กอดสายหมอก ฟินๆ
พระอาทิตย์แวะมาทักทายนิดหน่อย
ฝนที่เพิ่งขาดเม็ดไปทำให้รู้สึกสดชื่น จากหยาดน้ำที่ค้างอยู่บนยอดหญ้า อากาศเย็นสบาย สองล้อหมุนผ่านทางโคลนหมาดๆ ผ่านทุ่งหญ้าสะวันนาช่วงแรกกว่า 10 ตารางกิโลเมตร
ปั่นมาเรื่อยๆ จนถึง “ศาลาดุสิตา” ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น แม้ม่านหมอกยามเช้าจะลอยต่ำปกคลุมทิวทัศน์เบื้องหน้า แต่ก็ยังสามารถลั่นชัตเตอร์เก็บภาพประทับใจได้รัวๆ จากจุดนี้ เราสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์กลมโตสีแดงสด อวดโฉมผ่านช่องว่างระหว่างม่านเมฆ ตัดกับทุ่งหญ้าที่เขียวขจีเบื้องล่าง…สวยที่สุด
ดอกหญ้าหลากหลายชนิดในทุ่ง
ธรรมชาติเขียวสด
แสงสวยอีกมุม
-2-
ที่นี่มีพืชพรรณแปลกๆ น่าชมหลายชนิด เริ่มตั้งแต่หญ้าสายพันธุ์ต่างๆ เช่น หญ้าขนตาช้าง ขึ้นอยู่บนเนินเขาลดหลั่นกันไป แซมด้วยไม้ยืนต้นน้อยใหญ่ ไม้ดัดธรรมชาติ ดอกไม้ป่า อย่างดอกกระเจียว (ช่วงหน้าฝน) เอื้องสามสี และต้นไม้ที่ถูกดัด ตกแต่งโดยธรรมชาติ อย่างต้นเหมือดโลด ช่วงฟ้าเปิดจะมีฉากหลังเป็นขุนเขาทอดยาว งดงามจับใจ
ชมวิวจนอิ่มใจ ก็ได้เวลาคว้าแฮนด์จักรยาน นั่งบนหลังอาน ตบเกียร์ให้ต่ำ เพราะหนทางข้างหน้าคือทางลาดชัน ผ่านสังคมป่าอันหลากหลาย และป่าสนสองใบ
แสงแดดสีทอง ทาทับลงบนผืนฟ้า
นักท่องเที่ยวแชะภาพ เก็บความประทับใจ
ระหว่างทาง เลเวลการขับขี่ก็ขยับเพิ่มความยากมากขึ้น เราพบกับหลุม บ่อ และรอยร่องของถนนที่แตกบางช่วง ถ้ามัวแต่ดื่มด่ำบรรยากาศเพลินก็ทำให้เกิดอันตรายได้
ดังนั้น จอดจักรยานไว้ข้างทาง ส่องเลนส์ย้อนแสงไปที่ดวงตะวัน เมื่อแดดเริ่มออก แสงสีส้มสาดส่องทั่วทุ่งหญ้า เปลี่ยนอารมณ์จากทุ่งหญ้าสีเขียวให้กลายเป็นสีทอง
หมอกลงจัดจนขาวโพลนไปหมด
-3-
หลังจากผ่านเส้นทางอันหฤโหด ในที่สุด… เราก็มาถึงจุดหมาย “ทุ่งพญาเมืองเลน” แวะลงจากหลังอานพักผ่อนเอนกาย สูดอากาศใต้ต้นสนที่ร่วงหล่นกลายเป็นพรมธรรมชาติ
สำหรับนักปั่นแนะนำอย่าปั่นเพลิน ควรกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน 6 โมงเย็น เพื่อนั่งรถทัวร์ซาฟารียามค่ำคืน ทุ่งหญ้าสะวันนาเองยังมีประโยชน์ เป็นที่พรางตัวของเหล่าสัตว์ป่า และเป็นแหล่งอาหารอันโอชะของ กวาง กระจง เก้ง หมูป่า
กวางซ่อนตัวในทุ่งหญ้า
เช้าวันใหม่ หากวางแผนดีๆ จะมีเวลาชมทะเลหมอก สามารถมองเห็นได้แบบ 360 องศา บนจุดชมวิวที่ “เขาตะเคียนโง๊ะ” ห่างจากอุทยาน 4 กิโลเมตร
สายหมอกค่อยๆ ไหลปกคลุมเทือกเขา พื้นที่ด้านล่างที่เห็นเป็นหมู่บ้าน แสงรำไรของอาทิตย์ยามเช้ากับอากาศเย็นทำให้ฟินนน… สุดๆ อย่าบอกใคร
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
จุดชมวิวที่เขาตะคียนโง๊ะมุมนี้ เห็นวิว 360 องศา
ที่มาข้อมูล https://www.thairath.co.th/content/540591‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook