เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ร.ต.ท.อนุชา พูลยอด พนักงานสอบสวน สภ.บึงสามพัน อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากตำรวจประจำตู้ยามตำบลกันจุว่า มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นำหญิงสาววัยกลางคนที่ถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซ้อนจักรยานยนต์มาขอความช่วยเหลือ และล่าสุดได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบึงสามพันแล้ว
ส่วนสถานที่เกิดเหตุ อยู่ที่บริเวณป่าอ้อย ริมถนนสายนครสวรรค์-ชัยภูมิ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 119-120 หมู่ 1 ตำบลบึงสามพัน จึงเดินทางไปทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลบึงสามพัน ทราบว่าผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บรายนี้ คือ นางวันทา อายุ 46 ปี อยู่ ตำบลกันจุ โดยสภาพอยู่ในอาการบาดเจ็บ เพราะถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คน จี้ชิงทรัพย์และใช้มีดปาดคอจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่รอดตายมาได้ เพราะทำทีแกล้งตาย จากนั้น ได้ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ
จากการสอบสวนนางวันทา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. ตนเองได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กต 1973 เพชรบูรณ์ วิ่งมาตามถนนสายนครสวรรค์-ชัยภูมิ เพื่อจะเดินทางกลับบ้านพัก ระหว่างทางมีรถยนต์กระบะขับเบียดจนต้องหยุดรถกะทันหัน ระหว่างนั้นได้มีคนร้าย 2 คน บุกขึ้นมาบนรถยนต์ พร้อมขับรถพาตนเองหลบเข้าไปในป่าอ้อยริมถนน ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธมีดปาดคอ ตนจึงแกล้งตาย
จากนั้นคนร้ายได้ฉกกระเป๋าโดยมีเงินสดราว 40,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท และแหวนทอง 3 วง หลบหนีไป เมื่อเห็นว่าคนร้ายไปแล้ว ตนจึงได้หอบร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือดออกมาขอความช่วยเหลือที่บริเวณริมถนน ซึ่งเป็นช่วงที่พนักงาน รปภ.ของบริษัทแห่งหนึ่งขับรถผ่านมาพอดี จึงช่วยนำไปส่งตำรวจตู้ยามตำบลกันจุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางไปเก็บหลักฐาน และลายมือบนรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ส่วนคนรายที่ลงมือก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 4 คน โดยสันนิษฐานว่าคงรู้จักผู้เสียหายและขับรถติดตามนางวันทองมา จนกระทั่งสบโอกาส จึงทำการก่อเหตุปล้นทรัพย์และฆ่าปิดปาก แต่เนื่องจากนางวันทองแกล้งเสียชีวิต จึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ส่วนบาดแผลที่บริเวณคอที่ถูกคนร้ายใช้มีดปาด มีจำนวน 3 แผล โดยแพทย์ต้องทำการเย็บกว่า 80 เข็ม
ขอขอบคุณที่มาข่าวสด http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451140534
ภาพเพิ่มเติม หน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน明
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook