21 ก.พ. 59 เมื่อเวลา 10.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก สนธิกำลังร่วมกับ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในตำรวจ สภ.ชนแดน , ทหาร กกล.รส. และ ฝปก.ที่ 3 สตว.ศปป.4 กอ.รมน. กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง และฝ่ายปกครอง อ.ชนแดน จำนวนกว่า 15 นาย เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่ หมู่ 26 บ.คลองคล้า ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ กรณีผู้ประกอบการตัดไม้สัก ในเขตสวนป่าปลูกของรัฐ และถูกอายัดไม้สักไว้จำนวน 95 ต้น 268 ท่อน เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 ต่อมาผู้ประกอบการได้เข้าไปร้องเรียนสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ว่า การนำเสนอข่าวของสถานี เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2559 ไม่เป็นกลาง และกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง รวมทั้งมีการใส่ร้าย เจ้าหน้าที่ ศปป.4 กอ.รมน.ในไลน์กลุ่มของ กอ.รมน.ด้วย

เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการได้บุกเข้าตรวจสอบพื้นที่ หมู่ 26 บ.คลองคล้า และหมู่ 2 บ.น้ำพุ ต.พุทธบาท อ.ชนแดน รวม 3 แปลง ดังนี้ 1.แปลง สปก.4-01 หมู่ 26 บ.คลองคล้า พื้นที่ 24-3-84 ไร่ จากการตรวจสอบค่าพิกัด อยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังโป่ง ป่าชนแดน และป่าวังกำแพง (RF-22) และซ้อนทับแปลงเพาะชำเหง้าสักของสวนป่าภาครัฐ ซึ่งไม่สามารถ ออก สปก.4-01 ได้

2. แปลง สปก.4-01 หมู่ 26 บ.คลองคล้า พื้นที่ 9-2-32 ไร่ จากการตรวจสอบค่าพิกัด อยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ๆ และซ้อนทับแปลงสวนป่าสักของภาครัฐ ซึ่งไม่สามารถออก สปก.4-01 ได้

3. แปลง สปก.4-01 หมู่ 2 บ.น้ำพุ ต.พุทธบาท พื้นที่ 22-2-23 ไร่ บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังโป่ง ป่าชนแดน และป่าวังกำแพง มีพื้นที่ทำกินประมาณ 2 ไร่ ส่วนที่เหลือไม่ได้ทำประโยชน์ พื้นที่ส่วนใหญ่มีต้นไม้สักซึ่งเป็นแปลงปลูกป่าของรัฐบาล อายุประมาณ 30 ปี ในแปลงบนภูเขา มีพื้นที่ส่วนน้อยยังคงมีสภาพป่าดั้งเดิมอยู่

ด้านเจ้าของที่แปลงที่ 3 ได้นำชี้แนวเขตที่ดินและพร้อมจะคืนพื้นที่ป่าสักให้กรมป่าไม้ ส่วนพื้นที่อีก 2 แปลง เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นร่วมกันว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน โดยเจ้าหน้าที่ สปก. และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการขึ้นทะเบียนสวนป่าเข้าข่ายกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายจนเกิดความเสียหายต่อทางราชการและประเทศชาติ  ซึ่งเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายฉบับ หลายบท จึงได้จัดทำบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ และประมวลเรื่องราว ส่ง พงส. สภ.ชนแดน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคนที่เกี่ยวข้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจะเร่งดำเนินการส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ สปก. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เจ้าของพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมกันแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนเจ้าหน้าที่ ศปป.4.กอ.รมน. ที่ถูกกลุ่มขบวนการใส่ร้ายคือ จ.ส.อ.ฉัตรชัย ขำสว่าง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาแล้ว