ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังคาดไฟฟ้าลัดวงจรเกิดเหตุไฟลุกไหม้บ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ จ.เพชรบูรณ์ ช่วงเกิดเหตุมีลมพัดกระโชกแรง ส่งผลเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว วอดทั้งหลัง รถดับเพลิง 4 คัน เข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงไฟ กว่า 45 นาทีเพลิงสงบ
เมื่อเวลา 19.50 น.วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ร.ต.อ.มนตรี พูลเขตกิจ รองฯสว(สอบสวน) สภ.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุ จากศูนย์วิทยุ สภ.หนองไผ่ ว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านลักษณะสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ใน พื้นที่หมู่ 15 ตำบลหนองไผ่ อ.หนองไผ่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และประสานไปยัง นายสิริชัย จันทร์พัชรินทร์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ นำรถดับเพลงเทศบาลตำบลหนองไผ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ร่วมกับรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบัววัฒนา, เทศบาลตำบลบ้านโภชน์ และ อบต.หนองไผ่ รวมทั้งหมด 4 คัน ระดมเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง แต่เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุมีลมพัดกระโชกแรงตลอดเวลา ส่งผลให้ไฟได้ลุกไหม้บ้านวอดเสียหายทั้งหลัง และลุกลามไหม้ต้นมะพร้าวที่อยู่ข้างเคียง อีกทั้งภายในบ้านยังมีเสียงดังคล้ายถังแก๊สระเบิดดังสนั่น เจ้าหน้าที่ต้องกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว
สอบถามเบื้องต้น นายอุทัย หว่างสิงห์ อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เลขที่ 156/1 หมู่ 15 บ้านเนินมะค่าใหญ่ ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เผยขณะกำลังตื่นตกใจ ว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับภรรยา และลูกชายวัย 6 ขวบที่ชั้นล่าง จังหวะนั้นได้ยินเสียงดังและประกายไฟระเบิดที่ชั้นสองบนบ้าน จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู ก่อนพบกับกลุ่มควันพวยพุ่งและไฟได้เริ่มลุกไหม้บริเวณต้นเสากลางบ้าน ตนจึงได้กลับลงมาด้านล่างพร้อมทั้งนำภาชนะใส่น้ำเพื่อขึ้นไปดับไฟ
“แต่ปรากฏว่าไฟได้โหมรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีลมพัดแรงตลอดเวลา และชั้นบนเป็นบ้านไม้กลายเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟลุกไหม้จนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ จึงตัดสินใจนำภรรยาและลูกชายวัย 6 ขวบ วิ่งหนีออกจากตัวบ้านอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรีบเคลื่อนย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านออกมาไว้ในที่ปลอดภัย โดยเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ นำรถบรรทุกน้ำเข้าควบคุมเพลิงจนสงบ กว่า 45 นาที” นายอุทัย กล่าว
เบื้องต้นสำรวจพบ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว พัดลม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องอุปโภคบริโภค และเอกสารสำคัญไม่สามารถขนย้ายนำออกมาได้ทัน ถูกเพลิงเผาวอดทั้งหมด ซึ่งความเสียหายทั้งหมด ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา https://www.thairath.co.th/content/584213’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook