วันที่ 10 มี.ค.59 เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดประชุมแก้ไขปัญหาการอนุญาตขุดเจาะเหมืองแร่รอบ 2 โดยมีนายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจ.เพชรบูรณ์เป็นประธาน และมี น.ส.อลิสา โลหิตนาวี และน.ส.สุภัค ธิติรัชต ตัวแทนบริษัทสยามคอบเปอร์รีซอสเซสจำกัด ซึ่งได้รับอาชญาบัตรสำรวจแร่ในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมตัวแทนกลุ่มคัดค้านเหมืองแร่ อาทิ กลุ่มคนเพชรบูรณ์ไม่เอาไม่เอาเหมือง กลุ่มโลกเขียวเพชรบูรณ์ กลุ่มคนหนองไผ่ นาเฉลียง ยางงามไม่เอาเหมืองแร่ กลุ่มต่อต้านคอรัปชั่น ฯลฯเข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีตัวแทนหน่วยราชการในจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรส.พล.ม.1, กอ.รมน.จังหวัด, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ฯลฯเข้าร่วมประชุม
บรรยากาศการประชุมค่อนข้างตึงเครียด ก่อนการประชุมนายไกรสรถึงกับกำหนดกรอบให้สองฝ่ายนำเสนอข้อมูลปัญหาและความต้องการของแต่ละส่วนโดยให้ใช้เหตุผลในการพูดคุยกัน จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนบริษัทเริ่มเปิดการชี้แจงก่อน โดยน.ส.อลิสสาตัวแทนบริษัทฯเป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยการกล่าวชี้แจงเพียงสั้นๆ โดยขอให้แยกเรื่องการสำรวจและเรื่องการทำเหมืองแร่ให้ชัดเจน เนื่องจากบริษัทฯทำแค่การสำรวจว่ามีแร่ธาตุไหมและแร่ที่สำรวจหาคือแร่ทองแดง
จากนั้นตัวแทนกลุ่มคัดค้านได้ทยอยชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่ต้องการให้สำรวจแร่และไม่เอาเหมืองแร่ โดยนายสุพล พูพิพัฒน์ ตัวแทนโลกสีเขียวระบุว่า ทุกวันนี้ข้อมูลแร่บริษัทรู้ทั้งหมดแล้วจึงไม่จำเป็นต้องสำรวจแล้ว ส่วนนายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ตัวแทนกลุ่มเพชรบูรณ์ไม่เอาเหมืองแร่ชี้แจงว่า เป้าหมายของกลุ่มต้องการสร้างการเรียนรู้ให้แก่ประชาชน โดยไม่ใช่เฉพาะแค่บริษัทสยามคอบเปอร์ฯแต่ครอบคลุมไปทุกบริษัทฯ นอกจากนี้ นายวิศัลย์ยังโต้แย้งเรื่องบริษัทชี้แจงเรื่องทำแค่เพียงแค่การสำรวจแร่เท่านั้น โดยระบุว่าแม้จะเป็นคนละขั้นตอนเดียวกัน แต่ก็เป็นขบวนการเดียวกัน หากไม่ต้องการเหมืองแร่จะมาสำรวจทำไม
“บริษัทว่างงานนักหรือถึงมาเจาะสำรวจในบ้านผม แต่ละหลุมใช้เงินไปเท่าไหร่หัวเจาะที่ถูกยึดไปค่าเช่าวันละเท่าไหร่ คุณพูดให้ชาวบ้านฟังอาจจะพูดได้แต่ให้พวกเราฟังคงไม่ใช่”นายวิศัลย์กล่าวและยังย้ำด้วยว่า จากข้อมูลจามเว็บไซต์บริษัทฯก็ระบุว่าเป็นบริษัททำเหมืองแร่ ไม่ใช่รับจ้างสำรวจแร่เพราะฉะนั้นเป้าหมายของบริษัทคือต้องการทำเหมืองแร่ ให้ยอมรับความจริงจะได้ไปประเด็นเรื่องอื่น” นายวิศัลย์ กล่าว
ขณะที่น.ส.อลิสสาตัวแทนบริษัทได้กล่าวยอมรับว่า หากมีการสำรวจเจอคงไม่มีใครไม่อยากทำเหมืองแร่ แต่การทำเหมืองแร่หรือการสำรวจแร่ใช้เงินเยอะมากและต้องทำร่วมกัน บริษัทฯทำด้านเดียวคงเป็นไปไม่ได้และจะกอบโกยและจะเอาออกไปโดยชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมก็เป็นไม่ไม่ได้ ลองศึกษาเหมืองแร่ที่ประสบความสำเร็จดู ไม่ใช่เอาเหมืองแร่ที่เมืองไทยที่มีการทำแล้วทิ้งจะเข้าใจ
ต่อมานายไกรสรถึงกับหารือกับตัวแทนบริษัทฯให้ช่วยชี้แจงกรณีที่ชาวบ้านไม่ต้องการให้ทำเลย บริษัทจะมีแนวทางอย่างไร กระทั่งน.ส.อลิสาตัวแทนบริษัทระบุว่า การได้อาชญาบัตรมาก็เป็นไปตามขบวนการของทางราชการ และการเข้ามาก็ไม่ได้ปรึกษาใคร จึงขอนัดคุยกับคุณวิศัลย์หรือใครก็แล้วแต่เพื่อจะได้พูดคุยปรึกษาว่า ทางบริษัทฯจะเดินหน้าต่อไปหรือถอยหลังจะทำได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายวิศัลย์และแกนนำได้ตอบปฎิเสธโดยให้เหตุผลว่า เมื่อเจ้าของบ้านไม่ต้องการทำไมต้องมารังแก ขอให้ไปทำที่ออสเตรเลียแทน ส่วนการเจรจานายวิศัลย์ให้เหตุผลว่ากลุ่มคัดค้านฯเป็นสังคมและชุมชนออนไลน์ การจะแอบมาเจรจาคนเดียวคงไม่ได้และเป็นฉันทามติของกลุ่มคนเพชรบูรณ์ไปแล้วไม่ต้องการเหมืองแร่
“บริษัทก็เดินในเส้นทางของบริษัทไป ส่วนกลุ่มคัดค้านฯโดยเฉพาะกลุ่มเพชรบูรณ์ไม่เอาเหมืองแร่ ก็จะใช้เส้นทางการสร้างภูมิความรู้ให้แก่ชาวบ้านและชุมชนต่อไป แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในเวทีประชาคม สุดท้ายหากบริษัทได้สำรวจพบแร่มากมาย และจะเปิดเหมืองแร่ขบวนการก็ต้องมาสู่ประชาคมอีก เราไปสู้กันตรงนั้นอีกครั้ง และขอพูดด้วยความหวังดีอย่างไงก็ไม่ผ่านอย่ามาเสียเวลาเสียเงินตรงนี้ควรไปที่อื่นดีกว่า” นายวิศัลย์ กล่าว
ต่อมาในที่ประชุมจึงได้ข้อยุติ โดยนายไกรสรกล่าวสรุปว่า ทางบริษัทยืนยันดำเนินการโดยถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเจรจากันไม่ได้ก็จะเดินตามตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในอาชญาบัตรพิเศษ ในขณะที่ทางกลุ่มคัดค้านฯก็ยืนยันว่า หากเป็นที่สปก.และป่าไม้ต้องทำประชาคม ก็เป็นสิทธิที่จะทำความเข้าใจและให้ความรู้แก่ชาวบ้านและชุมชน โดยยืนยันไม่ได้ไปก่อความวุ่นวาย และกรณีที่เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิถึงจะยินยอมให้บริษัทฯไปแล้ว ทางกลุ่มคัดค้านก็มีสิทธิจะไปเกลี่ยกล่อมให้เปลี่ยนใจได้ และยังให้ความมั่นใจว่าจะไม่ไปรบกวนขัดขวางการทำงานของทางบริษัทโดยเฉพาะการใช้วิธีการที่รุนแรง
นอกจากนี้นายไกรสรยังกล่าวถึงกลุ่มโลกสีเขียวซึ่งยืนยันจะใช้เวทีศูนย์ดำรงธรรมที่จะผลักดันให้ยกเลิกอาชญาบัตรทั้งหมด ก็แจ้งไปแล้วว่าไม่มีอำนาจ โดยหลักการคนเพิกถอนก็คือคนที่ออกอาชญาบัตร ส่วนทางศูนย์ดำรงธรรมแค่ส่งเรื่องไปให้ แต่กลุ่มโลกสีเขียวก็พร้อมจะไปพึ่งพิงทางศาลปกครองเป็นหลัก จากนั้นนายไกรสรได้แสดงความขอบคุณกลุ่มคัดค้านฯที่แสดงให้เห็นว่าคนเพชรบูรณ์ไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นโดยใช้เหตุผลและกรอบที่บ้านเมืองให้ไว้ ซึ่งทางตัวแทนบริษัทต่างยอมรับและแสดงความพอใจ
ขอขอบคุณ สำนักข่าว มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/66029
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook