เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่จ.เพชรบูรณ์ได้เริ่มขยายเป็นวงกว้าง โดยล่าสุดที่อ.หล่มเก่า ลำน้ำพุงที่ไหลผ่านเขตเทศบาลตำบลหล่มเก่าเกิดการแห้งขอด จนสันดอนดินก้นลำน้ำโผล่ให้เห็นตลอดทั้งสายทำให้ประชาชนสามารถเดินสัญจรข้ามไปมาได้ นอกจากนี้บริเวณฝายวังสิมซึ่งกั้นลำน้ำพุง หลังน้ำเหือดแห้งทำให้ดินใต้ผนังปูนบริเวณริมตลิ่งเกิดการยุบตัวเป็นโพรงจนเทศบาลเกรงจะเกิดการทรุดพัง ส่วนสปินเวย์หน้าฝายก็เกรงว่าปูนอาจเกิดการแตกร้าว ขณะเดียวกันเทศบาลก็ต้องสำรวจหาแหล่งน้ำสำรองใหม่ เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับบรรเทาสาธารณภัย
นางวาสนา ธีรนิติ นายกเทศมนตรีตำบลหล่มเก่า กล่าวว่า น้ำในลำน้ำพุงที่ไหลผ่านเขตเทศบาลราว 4 กิโลเมตรเศษ เหือดแห้งมากที่สุดในรอบ 15 ปี สาเหตุมาจากภาวะแล้งจัด และก่อนหน้านี้มีเกษตรกรสูบน้ำไปหล่อเลี้ยงพืชผักและนาข้าวจนไม่เหลือน้ำติดก้นลำน้ำพุง ทุกปีฝายวังสิมจะเก็บกักน้ำไว้เหลือพอใช้สำหรับบรรเทาสาธารณภัย แต่ปีนี้ต้องไปหาแหล่งน้ำสำรองแทน ส่วนน้ำกินน้ำใช้ยังไม่มีผลกระทบ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการวางแผนรับมือภัยแล้งไว้ค่อนข้างดี
“ส่วนมูลดินกลางลำน้ำพุงนั้นอยากถือโอกาสนี้ประสานขอเครื่องจักรทางทหารเพื่อทำการขุดลอก โดยเทศบาลพร้อมสนับสนุนค่าน้ำมัน เพราะมูลดินเหล่านี้ทำให้ตื้นเขินหากขุดลอกสำเร็จจะสามารถเก็บกักน้ำไว้ได้มาก” นางวาสนากล่าว
ขอขอบคุณภาพข่าวจากมติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/73371‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook