เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังเปิดลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เวลา 08.30 -16.30น. ตลอดทั้งวันมีบุคคล คณะบุคคล ชมรม องค์กรทั้งในและต่างประเทศ เดินทางมาลงนามถวายพระพร พร้อมนำพานพุ่มดอกไม้ และสิ่งของต่างๆ มาทูลเกล้าฯถวาย ดังนี้ นางสมปอง สมชู ประธานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต บ้านหนักตอ จ.ตรัง และคณะ, คณะผู้บริหาร พนักงานเทศบาลตำบลผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์, นายเกษม สมภักดี ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีพฤฒา, เทศบาลเมืองท่าโขลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี, ดร.พิพัฒน์ ปรีดาวิภาต นายกสมาคมเสริมศึกษาสัมพันธ์ธรรมศาสตร, เทศบาลเมืองท่าโขลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี, นางแจ่มใส อนุวงศ์เจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์ ดุสิต, พล.อ.ท.บุญเอนก ดวงอุไร เจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ, นางศิริพรรณ หาญพาณิชย์ นายกเหล่ากาชาด จ.สมุทรปราการ, พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ร.ต.ทรงวุฒิ บุญอินทร์ เจ้ากรมสารบรรณทหารเรือ, นายวิโรจน์ แซ่หว้า ชาวบ้านเข็กน้อย ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ อดีตนักโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวพักการลงโทษจากเรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก, พล.ร.ต.สานนท์ ผะเอม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยายและรักษาฝั่ง
นายวิโรจน์ แซ่หว้า อายุ 36 ปี ชาวม้งผู้ต้องโทษคดีค้ายาเสพติด ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต แต่รับสารภาพเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต ถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก รวมระยะเวลาจำคุกไปแล้ว 15 ปี 4 เดือน ระหว่างต้องโทษทำความดีจนได้รับพระราชทานอภัยโทษ 6ครั้ง จากนั้นได้รับการพักโทษ ปล่อยตัวกับสู่ครอบครัวเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งระยะที่ได้รับการพักโทษ จะอยู่ในความดูแลของสำนักคุมประพฤติจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระเมตตาให้ตนเองมีโอกาสกลับตัวเป็นคนดีอีกครั้ง จึงตั้งใจจะเดินเท้ามาร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยระยะทาง 635 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นเดินตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม หลังจากออกจากเรือนจำทันที
โดยนายวิโรจน์ เผยว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากไม่มีพระองค์ทางคงไม่มีวันได้ออกจากเรือนจำอย่างแน่นอน จึงตั้งใจว่าจะเดินทางมาถวายพระพรพระองค์ท่านเป็นสิ่งแรก
“ผมได้รับโทษประหารชีวิต แต่ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะพระองค์ท่านทรงเมตตา จึงเลือกที่จะเดินเท้ามาลงนามถวายพระพร เพราะที่ผ่านมาได้เห็นพระองค์ท่านทรงเดินทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยียนราษฎร ซึ่งพอผมเดินบ้างทำให้เข้าใจพระองค์ท่านมากขึ้น ต่อจากนี้ไปผมสัญญาว่าจะกลับตัวเป็นคนดี ไม่หันกลับไปทำความผิดอีกแล้ว โดยตั้งใจจะหาทุนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงชีพต่อไป” นช.วิโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังแจ้งว่า วันพรุ่งนี้( 23 มี.ค.)จะเปิดให้มีการลงนามถวายพระพร ระหว่างเวลา 08.30-12.30 น. เท่านั้น เนื่องจากมีพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกตจากเครื่องทรงฤดูหนาว เป็นฤดูร้อน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนวันอื่น ๆ เปิดให้ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามปกติตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
วิโรจน์ แซ่หว้า และคณะเจ้าหน้าที่สำนักคุมประพฤติ
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook