ผวจ.เพชรบูรณ์เรียกประชุมทันที หลังหน.คสช.ใช้ ม.44 แก้ปัญหา ‘ภูทับเบิก’ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบ่งเป้าหมายเป็น 4 กลุ่ม เตรียมเข้าดำเนินการโดยต้องไม่ให้ถูกฟ้องว่าเลือกปฏิบัติ ส่วนชาวม้งที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ไม่ต้องกลัวถูกไล่…
วันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ภายหลังจากที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 วันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิกในท้องที่ตําบลวังบาลและตําบลบ้านเนิน อําเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับคําสั่งดังกล่าว มีรายละเอียดระบุว่า “พื้นที่ป่าภูทับเบิกในท้องที่อําเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ที่อยู่ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ ชั้นที่ 1 A ชั้นที่ 1 B และชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลําธารที่สําคัญของแม่น้ำป่าสัก ถูกบุกรุก ถือครอง โดยฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ และนําไปก่อสร้างโรงแรม สถานที่พักตากอากาศ และร้านค้าที่มีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ อีกทั้งสิ่งก่อสร้างดังกล่าวยังมีความไม่มั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรมหรือมาตรฐานความปลอดภัยด้านวิศวกรรม ปิดกั้นทางไหลของน้ำ และเสี่ยงต่อการพังทลายของดิน อันอาจก่อให้เกิดอุบัติภัยและความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้ จึงมีความจําเป็นต้องกําหนดมาตรการในการระงับ ปราบปราม และป้องกันการกระทําการที่มีผลกระทบในพื้นที่ป่าภูทับเบิก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้มีการเร่งฟื้นฟูป่าภูทับเบิกให้กลับคืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่มีความสําคัญต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม
จึงมีคําสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอําเภอหล่มเก่า ผู้อํานวยการสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์และโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานกับผู้บุกรุกซึ่งเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างในป่าภูทับเบิก รื้อถอน ทําลาย หรือกระทําการอื่นใดแก่สิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้ป่าภูทับเบิกกลับคืนสภาพเดิมหรือใกล้เคียงสภาพเดิม แล้วแต่กรณีเพื่อประโยชน์แก่รัฐในการเข้าฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และชดใช้หรือออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการโดยไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง”
ล่าสุด ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเข้าประชุมเพื่อกำหนดมาตรการดำเนินการตามคำสั่งกับผู้ครอบครองที่ดินป่าภูทับเบิก โดยนายบัณฑิตย์ กล่าวว่าได้กำหนดเป้าหมายแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ 1. กลุ่มที่ถูกศาลพิพากษาตัดสินแล้ว 2. กลุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินคดีและอยู่ระหว่างการสอบสวน 3. กลุ่มที่ถูกคณะโยธาธิการและผังเมืองสั่งรื้อจำนวน 50 หลัง เนื่องจากอาคารไม่แข็งแรง 4. กลุ่มที่ก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ปิดกั้นทางไหลของน้ำและหน้าดินมีความเสี่ยงพังทลายและมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ และมอบหมายให้ นายกฤษณ์ คงเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบรวบรวมคณะทำงานและเร่งเขียนแผนปฏิบัติการ
ทั้งนี้ จะต้องหาแนวทางป้องกันไม่ให้นายทุนฟ้องร้องว่าเลือกปฏิบัติ หรือกระทำโดยไม่สมควรแก่เหตุ ด้วยการให้มีการปิดประกาศแจ้งให้ผู้ครอบครองทราบให้เป็นขั้นเป็นตอน และรวบรวมวิธีการขั้นตอนและหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการตรวจยึดสิ่งของและค่าใช้จ่ายให้การดำเนินการรื้อถอน เพื่อจะได้เรียกคืนจากผู้ครอบครองคือนายทุนนอกพื้นที่ ซึ่งชาวม้งในพื้นที่นั้นไม่ต้องวิตกกังวล เพราะชาวม้งถือเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2509 แล้ว แต่สำหรับชาวม้งที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรงก็จะต้องปรับปรุงหรือรื้อถอนตามมาตรฐานความปลอดภัยของสิ่งปลูกสร้าง โดยที่ประชุมยังไม่ได้กำหนดวันดีเดย์ว่าเป็นวันที่เท่าไร แต่คงจะเป็นในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน.
ข่าวไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/656521‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook