LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2024
ข่าวเด่นเพชรบูรณ์

เล็งยึดคืนสปก. ที่ดินอดีตรมต. “ภูทับเบิก”เร่งรื้อ รับลูกมาตรา44

1467861434_201607061645121-20050615160100

ขานรับม.44ยึดที่ส.ป.ก. เกษตรฯ นำร่อง 3 จว. ล็อกเป้าที่ดินนักการเมือง ทั้งที่สระแก้ว ปราจีนบุรีและชัยภูมิ เลขาฯส.ป.ก. เผย”เวิลด์พีซ วัลเล่ย์” และ”โบนันซ่า อาจไม่เข้าเกณฑ์ ด้านผวจ.เพชรบูรณ์เผยเป้าหมาย จัดการรีสอร์ตผิดกฎหมายบนภูทับเบิก ยันชาวเขาไม่ได้รับผล กระทบ

จาก กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 35/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก ในท้องที่ ต.วังบาล และ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 กําหนดมาตรการระงับ ปราบปราม ป้องกันการกระทําการที่มีผลกระทบและฟื้นฟูพื้นที่ป่าภูทับเบิก รวมทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมิชอบกฎหมาย ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้อำนาจรื้อถอนยึดคืนที่ดินสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 ว่า ในส่วนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อการเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พ.ศ…. ที่ผ่านความเห็นชอบของครม. ก่อนหน้านี้นั้นยังอยู่ แต่ที่ต้องใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งในครั้งนี้เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนการจะเอาผิดผู้ที่ครอบครองผิดกฎหมาย จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องไปสอบสวนกันต่างหาก ทั้งคนซื้อ เจ้าหน้าที่กระทำผิด แต่ตอนนี้ต้องเอาพื้นที่กลับมาก่อนและให้รีบจัดสรรให้คนยากคนจน
พล.อ.ฉัตร ชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า มอบหมายให้ส.ป.ก. ติดตามที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 ใน 3 กรณี คือ 1.พื้นที่ไม่เข้าสู่การปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ 500 ไร่ขึ้นไป 25 จังหวัด 422 แปลง พื้นที่รวม 426,300 ไร่ 2.พื้นที่ที่จัดให้แก่เกษตรกรแล้วแต่เกษตรกรขายให้กับบุคคลอื่น ในเนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป อยู่ใน 2 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยาและนครราชสีมา เนื้อที่ 488 ไร่ และ 3.พื้นที่ที่มีคำสั่งพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่ เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป 3 จังหวัด คือกระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา ทั้งหมด 5 แปลง พื้นที่รวม 5,906 ไร่
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวต่อว่า รวม 3 กรณี อยู่ในพื้นที่ 25 จังหวัด 429 แปลง รวม 432,765 ไร่ ซึ่งจะต้องติดประกาศให้ผู้ครอบครองนำหลักฐานมาแสดงภายใน 15 วัน หากไม่แสดงหลักฐานหรือหลักฐานได้มาผิดกฎหมาย ส.ป.ก.จะแจ้งให้ออกจากที่ดิน และหาก ไม่ออกจะประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ขอกำลังจากหน่วยความมั่นคงเพื่อขอกำลังยึดคืน แต่ถ้ามีหลักฐานมาชี้แจงก็จะตรวจสอบให้เสร็จภายใน 30 วัน ถ้าหลักฐานถูกต้องก็จะยุติเรื่อง ถ้าไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการยึดคืน
นาย สรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า การยึดที่ส.ป.ก.คืน ที่กังวลที่สุดคือจ.นครราชสีมา เพราะปริมาณมากที่สุด รองลงมาเป็นกำแพงเพชร เมื่อใช้ม.44 ผู้มีอิทธิพลก็ต้องเคารพกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเมืองการบังคับใช้กฎหมายจึงหย่อนยาน จึงต้องทำกฎหมายให้เข้มแข็ง ทั้งนี้เตรียมติดประกาศยึดที่ส.ป.ก.คืน นำร่องในจังหวัดชัยภูมิ สระแก้วและปราจีนบุรี
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า โดยจังหวัดชัยภูมิ เป็นการถือครองโดยอดีตรัฐมนตรี ซึ่งถือครองจำนวนมากและยาวนาน ส่วนจังหวัดสระแก้ว มีนักการเมืองระดับประเทศถือครองที่ดินส.ป.ก. ประชาชนเรียกนักการเมืองคนนี้ว่า ป๋า ส. และจังหวัดปราจีนบุรี ก็เป็นกลุ่มอำนาจเดียวกับนักการเมืองในสระแก้ว กรณีภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ชุมพร เป็นของกลุ่มเอกชนผู้ค้าน้ำมันปาล์ม
“ทั้ง นี้คำสั่งจะไม่ตรวจความชอบ แต่ตรวจเอาเอกสารที่มีอยู่จริงว่ามีอยู่ไหม ที่อำเภอมี เอกสารที่นำมายื่นที่จังหวัดมีหลักฐานถูกต้องตามต้นสังกัด เรื่องออกมาอย่างชอบไม่ชอบจะตรวจสอบภายหลัง สมมติว่าสงสัยว่า ไม่ชอบแต่เนื่องจากเขามีเอกสารมายืนยันเราก็ต้องปล่อยผ่านไปก่อน และขึ้นบัญชีดำไว้ หลังจากนี้จะว่าตามกฎหมายปกติ ถ้าหากมี สค.1 ก็จะตรวจว่า สค.1 ต้นขั้วอยู่อำเภอหรือเปล่า ตรงกับตำแหน่งที่อ้างอิงหรือเปล่า แต่ถ้าส่งมาขอออกเราจะเริ่มคัดค้าน เพราะเป็นสค.1 ที่ออกโดยมิชอบ” นายสรรเสริญกล่าว
นายสรรเสริญกล่าวด้วยว่า ทั้งหมดจะตรวจสอบให้เสร็จภายใน 69 วันแรก และเผื่อเวลาไว้อีก 60 วัน ประมาณการทั้งหมด 129 วัน โดยเวลาที่กำหนดไว้แต่ละขั้นตอนเราต้องทำให้เสร็จ เรื่องตรวจสอบว่ามีเอกสารหรือไม่มีเอกสารเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และเวลาตรวจสอบมีไม่มาก
“สำหรับศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ ตรวจสอบล่าสุดมีเอกสารสิทธิและนส.3 อยู่หลายแปลงรวมแล้วเต็มแปลง ส่วนโบนันซ่าเขาใหญ่ ดูจากสนามแข่งรถไซซ์ไม่ถึงส.ป.ก. ในส่วน 100 ไร่ และไม่เข้าเกณฑ์ สมมติว่าถ้าเป็นบริเวณตัวโบนันซ่า อาจจะไปดูว่ามีที่ของ ส.ป.ก.ปนอยู่ไหม ถ้ามี ส.ป.ก.4-01 ปนอยู่ จะใช้มาตรา 44 เอาคืน แต่ส่วนใหญ่เขาจะมีนส.3 อยู่” นายสรรเสริญกล่าว
นาย สรรเสริญกล่าวอีกว่า โดยกรณีที่ 2 ที่ส.ป.ก.4-01 ออกไปก็มีคำสั่งให้แต่ละจังหวัด อย่างเชียงใหม่ ตรวจสอบในเบื้องต้นว่า เป็นส.ป.ก. 4-01 ที่มีบริษัทแห่งหนึ่งไปกว้านซื้อทำสวนส้ม ตรงนี้สามารถรวบรวมตรวจสอบ และเสนอให้เข้าชี้แจงไม่ได้ตามกระบวนการ แต่ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน โดยเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด(คปจ.) ถ้าคปจ.เสนอให้สิ้นสิทธิ์ จะเข้าสู่กระบวนการบังคับและให้ออกจากที่ดิน ส่วนกรณีที่ 3 เป็นปัญหาที่เราฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว ค่อนข้างล่าช้า บางแห่งเป็นเรื่องของผู้มีอิทธิพล เรื่องของมวลชน ที่จะเข้าไปบังคับแล้วทำได้ยาก ที่จริงบางแห่งพอมีมาตรา 44 คุยง่ายแล้ว เพราะ รู้ว่าดื้อต่อไปไม่ได้
เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ส.ป.ก.หาข้อมูลในทางลับ อย่างบริษัทสหวิยาก็คุยแล้ว มีที่ปราจีนบุรีอยู่ 6,000 กว่าไร่ พอขอหลักฐานก็มีการกระจายสิทธิ์ให้ลูกไร่แต่พอขอชื่อลูกไร่มาดูก็ไม่ตรง เพียงแต่แบ่งไว้เฉยๆ ซึ่งบางแห่งก็พอจะพูดได้เพราะเขามาคุยกับเราแล้ว เรารู้ข้อมูลแล้ว เพียงแต่ขั้นตอนในการทำงานต้องใช้ขั้นตอนตามกฎหมาย
นาย สรรเสริญกล่าวต่อว่า สำหรับรีสอร์ตไม่น่าเกี่ยวเพราะไม่ใช้พื้นที่ถึง 500 ไร่ ถ้าเป็นพวกรีสอร์ตเนี่ยอาจเป็นพวกมีส.ป.ก. 4-01 แล้ว 2 รายเกิน 1,100 ไร่ ส.ป.ก.4-01 จะออกไม่เกิน 50 ไร่ จะตรวจสอบว่าใครเสียภาษี เอาแปลงของรีสอร์ตมาดูว่ามีพื้นที่ส.ป.ก.4-01 ของส.ป.ก.กี่ฉบับ ถ้ามีเกิน 100 ไร่ ก็ใช้ม.44 เลย โดยรวมประเมินว่าจะเรียกกลับคืนได้ 100,000 ไร่ อย่างน้อยก็น่าจะกลับมา 25% จากเดิมประเมินว่าได้ 10%
“ถ้า เราจัดช้าจะมีปัญหาเรื่องนายทุนกลับมายึดคืน และถ้าจะจัดประมาณ 100,000 ไร่ ซึ่งถ้าจัดไม่เสร็จจะของบกองทุนไปล้อมรั้วเลย ซึ่งรัฐมนตรีจะทำแผนโดยปรึกษากับ นายกฯ ประมาณค่าใช้จ่ายไร่ละ 10,000-15,000 บาทก่อน ทำให้ 100,000 ไร่จะใช้เงิน 1,000 ล้าน เป็นเรื่องที่เราต้องมาหา เอาจริงๆ ส.ป.ก.ทำได้แค่ 40,000 ไร่ และให้กองทัพไปช่วยดูเพราะต้องให้ทหารช่างเข้าไปดู” นายสรรเสริญกล่าว

นาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวถึงคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 ว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารม้าที่ 1 บก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก ศูนย์พัฒนาชาวเขา จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชร บูรณ์ เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้ รีสอร์ตบนภูทับเบิกในขณะนี้มีอยู่ 95 ราย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความและดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาแล้ว 26 ราย และยังมีอีก 21 รายที่ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะได้ส่งฟ้องศาลต่อไป
ผวจ.เพชรบูรณ์กล่าวด้วยว่า การจัดระเบียบภูทับเบิกก่อนหน้านี้พบว่าการบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถทำได้ และมีข้อจำกัด ประกอบกับบางรายเป็นคนในพื้นที่ แต่กลับไปก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงภัยอันตราย ที่ผ่านมาได้แต่อาศัยกฎหมายบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งทำได้เพียงแค่สั่งห้ามคนเข้าไปในอาคารและสถานที่ที่กำหนดก็สามารถดำเนิน การได้เพียง 50 หลัง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559

ผวจ.เพชรบูรณ์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 14 ก.ค.นี้หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีทั้ง 4 กระทรวงจะเดินทางมาที่ภูทับเบิกเพื่อดูสถานที่จริง ก่อนจะตกลงใจเกี่ยวกับแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอม เกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ทำไว้ ซึ่งภายใต้แผนฯดำเนินการโดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินใน 6 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ทำกิน พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนรวม พื้นที่อนุโลมหรือผ่อนปรนประกอบการค้าการพาณิชย์และการบริการ พื้นที่ป่าชุมชน พื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ ฉะนั้นการทำงานเรื่องการใช้ประ โยชน์ที่ดินยังทำอยู่ สำหรับราษฎรชาวเขาในพื้นที่ไม่ต้องวิตก การดำเนินการจะมุ่งเน้นกับกลุ่มนายทุนรีสอร์ตเท่านั้น
ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมได้หารือถึงขั้นตอนดำเนินงานและวิธีปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 โดยออกแผนยุทธการพร้อมวิธีปฏิบัติ แยก 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มที่ถูกศาลตัดสินพิพากษาแล้ว 2.กลุ่มที่ป่าไม้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วและอยู่ในชั้นสอบสวน 3.กลุ่มที่ทางโยธาธิการและผังเมืองตรวจอาคาร มีความเห็นสั่งรื้อ 50 หลังเนื่องจากสภาพอาคารไม่มั่นคงแข็งแรงปลอดภัย 4.กลุ่มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต่อการพังทลายของหน้าดิน และปิดกั้นขวางทางน้ำรวมทั้งมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ
ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า กลุ่มเป้าหมายแรกที่จะเข้าดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่ 35/2559 คือกลุ่มรีสอร์ตที่ศาลได้มีคำสั่งจนถึงที่สุดแล้วรวมทั้งอาคารหรือสิ่งปลูก สร้างใดที่เห็นว่ามีลักษณะโครงสร้างไม่มั่นคงแข็งแรง ไม่ปลอดภัย ก็จะมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการ รื้อถอน ทั้งนี้ จังหวัดจะออกหนังสือแจ้ง ไปให้ผู้ประกอบการดังกล่าวทราบภายในอาทิตย์นี้ พร้อมทั้งให้รื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากพ้นจากนี้จะได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนให้ พร้อมเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนจากผู้ครอบครอง
นายบัณฑิตย์กล่าวอีกว่า จากการที่มีคำสั่ง คสช. ที่ 35/2559 ทำให้การจัดระเบียบและดำเนินการบนพื้นที่ภูทับเบิกเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะมีคำสั่งศาลตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 แล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของหรือผู้ที่ครอบครองก็ยังไม่ได้ปฏิบัติตามแต่อย่างใด แต่กลับมีการขยาย ต่อเติม อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายมา วงศ์ทับเบิก อายุ 52 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านภูทับเบิกและเป็นเจ้าของทับเบิกอินดี้รีสอร์ท หนึ่งในรีสอร์ต 21 รีสอร์ต ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดด้วยการก่อสร้างรีสอร์ตใหม่ และต่อขยายเพิ่มอย่างไม่ถูกต้อง กล่าวว่า การที่ศาลมีคำสั่งกับรีสอร์ตต่างๆ นั้นก็ให้เป็นเรื่องของกฎหมายไป แต่หากเป็นในส่วนของชาวบ้านที่นำเงินเก็บ รวมทั้งได้ไปกู้เงินมาลงทุน จะให้ทำอย่างไร เพราะเมื่อก่อนนี้ส่วนราชการหลายๆ ส่วนก็เข้ามาให้เลิกปลูกฝิ่น หันมาปลูกกะหล่ำ จากนั้นก็มาบอกว่ากะหล่ำมีสารพิษตกค้างแล้วมาส่งเสริมการท่องเที่ยว พวกตนก็นำเงินเก็บที่มีรวมทั้งไปกู้มาจากธนาคารเพื่อนำมาลงทุนเป็นเงินนับ แสนนับล้านบาท

“หากรัฐบาลจะมารื้อทิ้งพวกผมก็พร้อมที่จะปก ป้องทรัพย์สินของตนเอง ผมอยากจะบอกว่าพื้นที่บนภูทับเบิกบริเวณนี้ก็ไม่มีต้นไม้อยู่แล้ว จะมาบอกว่าพวกผมทำลายป่าไม้ได้อย่างไร ทางที่ดีคนที่มีอำนาจน่าจะมาคุยกับชาวบ้าน เพราะเมื่อก่อนจับปืนสู้กันยิงกันยังกลับมาคุยกันได้ นับประสาอะไรเรื่องแค่นี้จะคุยกันไม่ได้” นายมากล่าว
นาย ชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอผลการสำรวจ และผลสรุปจากทาง จ.เพชรบูรณ์ ก่อน ว่ามีรีสอร์ตที่ต้องเข้าไปรื้อถอนกี่ราย โดยจะสั่งการให้ชุดพยัคฆ์ไพรเข้าไปร่วมสำรวจและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้เป็นขั้นตอนของการร้องทุกข์กล่าวโทษให้เกิดการรื้อถอน ซึ่งมั่นใจว่ามาตรา 44 จะช่วยให้การแก้ปัญหาได้รวดเร็ว และจัดการพื้นที่ได้อย่างถาวร

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1467861440‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวเด่นเพชรบูรณ์ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด