LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
วันที่ 25 กรกฎาคม นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากมีรีสอร์ตบนภูทับเบิกซึ่งเป็น 1 ใน 19 รายที่ถูกคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์สั่งให้รื้อถอนภายใน 30 วัน โดยตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ 8 บ้านดอยน้ำเพียงดิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า ยินยอมรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างด้วยตนเองว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่รีสอร์ตดังกล่าวปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะทำให้การจัดเก็บวัสดุและทรัพย์สินต่างๆ ทางรีสอร์ตยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก แต่หากให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการรื้อให้ ยังไงก็ต้องคิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการกับทางเจ้าของหรือผู้ประกอบการอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการให้ความร่วมมือแบบนี้ถือว่าดีมากและยังเป็นตัวอย่างที่ดีอีกด้วย
“เวลานี้ผู้ประกอบการหลายท่านอาจจะดูท่าทีก่อนว่าทางราชการจะดำเนินการอย่างไร แต่เมื่อมีคำสั่งและทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศคำสั่งไปแล้ว ในทางปฏิบัติจึงต้องทำอย่างแน่นอน จึงอยากขอความร่วมมือรีสอร์ตที่ได้รับคำสั่งให้รื้อถอนแล้วอยากขอให้ดำเนินการโดยตัวท่านเอง เพราะสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรื้อก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้” นายบัณฑิตย์
นายบัณฑิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายรีสอร์ตที่ต้องดำเนินการรื้อถอนนอกจาก 19 รายนี้แล้ว ในส่วนรายอื่นก็ต้องดำเนินการเช่นกันแต่จะดำเนินการเป็นระยะๆ ส่วน 19 รายแรกที่ดำเนินการก่อน เมื่อมีการแจ้งกำหนดเวลาแล้วและเมื่อครบกำหนดยังไม่ออกอีก ก็จะมีหนังสือพร้อมกำหนดการแจ้งไปอีกว่า ทางคณะเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนวันใด ซึ่งขั้นตอนตรงนี้จะมีเงื่อนระยะเวลา เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม ส่วนผู้ประกอบการที่เป็นชาวเขาในพื้นที่ยังก่อสร้างไม่หยุด โดยอ้างว่าเป็นคนในพื้นที่จึงมีสิทธิได้นั้น จะมีการตรวจสอบแม้ทางเจ้าหน้าที่จะยังไม่ได้จดหรือปิดแจ้งคำสั่งก็ตาม แต่อย่าลืมว่าคำสั่งของ หน.คสช.ที่ 35/2539 ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการได้ เพราะฉะนั้นหากมีการก่อสร้างอะไรต่างๆ บนภูทับเบิก ณ เวลานี้ โดยเฉพาะเป็นการก่อสร้างโดยแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจขอให้ระงับไว้ทั้งหมด
“คนที่ยังทำอยู่หากคิดว่าเจ้าหน้าที่จะอนุโลมคงจะไม่ใช่ ยิ่งในรายที่สร้างใหม่หมายถึงท่านไม่ได้ใส่ใจต่อคำสั่งหรือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็คงมาดูกันทำไมถึงทำ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่อยากใช้คำสั่งโดยเฉพาะกับคนพื้นที่เดิม แม้จะมีคุณสมบัติแต่ทั้งนี้ในคำสั่งหน.คสช.ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า การก่อสร้างที่เป็นลักษณะการแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นสิ่งที่จะต้องถูกดำเนินการ” นายบัณฑิต กล่าว
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ ทางอำเภอหล่มเก่าได้เชิญเจ้าของหรือผู้ประกอบการซึ่งเป็นชาวเขาในพื้นที่มาแจ้งเตือน ให้ระงับการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างไว้ก่อน ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559 เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาภูทับเบิก แต่ปัจจุบันแม้จะมีคำสั่งหน.คสช.ดังกล่าวออกมาแล้วก็ตาม ก็ยังปรากฏว่ายังมีผู้ประกอบการเหล่านี้นอกจากไม่รับฟังคำตักเตือนแล้ว ยังดื้อแพ่งดำเนินการก่อสร้างต่อไปไม่หยุดยั้ง กระทั่งล่าสุดนายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า ได้มีคำสั่งให้คณะผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าทำการตรวจสอบ พร้อมให้นำคำสั่งแจ้งให้รื้อถอนภายใน 30 วันไปปิดประกาศแจ้ง หากพบว่ามีการฝ่าฝืนคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/2559ดังกล่าวจริง….
แหล่งข่าวที่มา มติชนออนไลน์ อ่านได้ที่ลิ้ง http://www.matichon.co.th/news/223538‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook