รื้อต่อ จนท.ใช้รถแบ็กโฮ ทุบทำลายอาคารร้านสานฝันรีสอร์ต บนภูทับเบิก กั้นมวลชนไม่ให้ขัดขวาง เจ้าของชาวม้ง ยืนร่ำไห้สะอื้น บอกเงินทองที่สะสมมา บวกไปกู้หนี้ยืมสินหลายล้านมาทำอาชีพสุจริต มลายหายไป ยังไม่ได้ทุนคืน…
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. มีความคืบหน้าการเข้ารื้อถอนรีสอร์ต-สิ่งปลูกสร้าง บนภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังใน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ตามคำพิพากษาศาล และคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิกในท้องที่ ต.วังบาล และ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีการฝ่าฝืนไม่รื้อถอนจำนวน 17 ราย จาก 19 ราย กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ระดมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปกครอง และทหารจาก ช.พัน 8 จำนวน 650 นาย เข้าทำการเข้ารื้อถอนรีสอร์ตโรงเตี๊ยม เป็นรายแรก
จนมาถึงเช้าวันนี้ (20 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ได้เข้ารื้อถอนรีสอร์ตโรงเตี๊ยมต่อ และเมื่อช่วงเที่ยงเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็กโฮ เข้าทุบทำลายอาคารร้านสานฝันรีสอร์ต เลขที่ 218 ม.16 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า ที่เป็นร้านจำหน่ายสินค้า และเปิดเป็นรีสอร์ต มีบ้านพักจำนวน 16 หลัง ร้านค้า 1 หลัง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลัง 200 นาย เพื่อยืนกั้นไม่ให้มวลชนเข้าขัดขวาง ก่อนใช้รถแบ็กโฮเข้าทุบทำลายอาคารปูน ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายสินค้า
ขณะที่เจ้าของยืนร่ำไห้ ระบุว่า ตนเองและพี่น้อง 3 คน มีที่ดินราว 2 ไร่ ได้ร่วมกันออกเงินมาลงทุนสร้างกิจการ รวมถึงกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนหลายล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้ทุนคืนเลย ตนเสียใจมากที่ถูกเจ้าหน้าที่มาทุบทำลาย พวกตนเป็นหนี้เป็นสินเพื่อมาประกอบอาชีพสุจริต ก่อนหน้าเก็บค่าเช่าเต็นท์เพียงคนละ 20 บาท เก็บหอมรอมริบเพื่อสร้างอาชีพ ซึ่งทางการทำไมไม่หาทางออกให้ แล้วพวกเราจะหากินอย่างไร
“พวกเราทำงานเพราะหน่วยงานภาครัฐส่งเสริม ก่อนหน้านี้เราขึ้นศาล ศาลก็ถามเราว่าจะให้ตัดสินยังไง ให้เรายอมคดีก่อน เราไม่รู้กฎหมาย และบอกอีกว่าถ้าเมื่อไหร่ไม่ให้อยู่เราก็จะออก เราไม่เข้าใจว่าจะให้เรารื้อออกแล้วคนอื่นต้องออกด้วยหรือไม่ เราทำแบบธุรกิจครอบครัวแบ่งกัน เราไม่ใช่คนอื่น พวกเราเป็นม้ง ถ้ามีคนทุบบ้านท่าน ท่านจะเสียใจหรือไม่ บอกให้เราทำห้องน้ำให้สะอาด บ้านให้แข็งแรง แต่กลับมาให้พวกเรารื้อถอน จะให้พวกเราอยู่อย่างไร พวกเราก็คนไทยเหมือนกัน”
ชาวบ้านลุกฮือปิดถนน ต้านรื้อถอน ชง 5 ข้อ แก้ปัญหา
มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. สถานการณ์ในพื้นที่เริ่มตึงเครียดขึ้น โดยได้มีมวลชนกว่า 100 คน มายืนขวางบริเวณด้านหน้าอาคาร “คานาอัน รีสอร์ต” ขณะที่เจ้าของรีสอร์ตได้นำเครื่องมือเตรียมมารื้อถอน ยืนรอเจ้าหน้าที่ โดยกลุ่มมวลชนซึ่งเป็นชาวม้ง ได้โห่ร้องตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่า “เป็นคนไทยเหมือนกันทำไมทำแบบนี้ การมารื้อถอนทำให้พวกเราเดือดร้อนเป็นหนี้เป็นสินกัน เหมือนฆ่ากันทั้งเป็น การรื้อก็เหมือนการฆ่าอยู่แล้ว พวกเรายอมตายที่ตรงนี้ เพราะถ้ารื้อก็ต้องตายอยู่ดี เพราะหนี้สินล้นพ้นตัวต้องยืมญาติพี่น้องลงทุน รวมถึงกู้หนี้ยืมสินด้วย”
ขณะที่ นายมงคล เถารักตระกูล สมาชิก อบต.วังบาล ได้เป็นตัวแทนเข้าพูดคุยกับ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า โดยนายมงคล กล่าวว่า ได้อาศัยอยู่บนภูทับเบิกมานานหลายสิบปีแล้ว มันไม่เป็นป่ามาตั้งนานแล้ว เราไม่ได้บุกรุกป่า หากจะทำแบบนี้เหมือนฆ่ากันทั้งเป็น ถ้าอย่างนั้นให้ปิดภูทับเบิกไปเลย พวกเราจะได้รื้อถอนเอง ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่มารื้อถอน เพราะไม่มีใครมาพักก็เหมือนรื้ออยู่แล้ว หรือหากจะรื้อถอนก็ขอให้พวกเรารื้อถอนเอง
จากนั้น นายอำเภอหล่มเก่า ระบุว่า จะนำไปเสนอคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาภูทับเบิก รับทราบถึงความต้องการ และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังกลับ จากนั้นจึงบอกให้ชาวบ้านแยกย้ายกันกลับเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
กระทั่งเวลาผ่านไป 15 นาที หลังจากเจ้าหน้าที่ถอนกำลังเดินไปที่รีสอร์ตโรงเตี๊ยม ได้มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าไปรื้อถอนรีสอร์ตตายาย ทำให้ชาวบ้านเกิดความโกรธแค้น นำรถยนต์ 7 คัน และสิ่งกีดขวางมาปิดกั้นถนนบริเวณทางแยกขึ้นจุดสูงสุดของวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเข้าเจรจานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยเปิดโต๊ะเจรจา เรียกตัวแทนของชาวบ้านมาพูดคุย ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิด โดยยืนยันได้ยุติการรื้อถอนแล้ว
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้ยื่นหนังสือเรียกร้อง 5 ข้อ 1. ให้เจ้าหน้าที่ยุติการรื้อถอน นำเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ลงจากภูทับเบิก 2. ให้หาทางออกร่วมกันเป็นลำดับขั้นตอน 3. ให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 4. ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินให้เป็นกิจลักษณะ ตามกฎหมายที่ดินที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่พึงมีพึงได้ และ 5. ให้อาศัยกฎหมาย ม.44 ที่ประกาศแล้วนี้ แก้ไขปัญหาชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี และบังคับคดีให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด โดยนายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ รับเรื่องเพื่อไปเสนอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกได้รับทราบ ทำให้ชาวบ้านพอใจแยกย้ายกลับ ส่วนเจ้าหน้าที่ได้เดินทางกลับ และขนย้ายแบ็กโฮกลับในเวลา 18.20 น. ในที่สุด
ต่อมา เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 20 ส.ค. 59 นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เป็นประธานการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ กรมพัฒนาสังคม ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้่าที่ตำรวจ และอบต.วังบาล เพื่อหารือจากกรณีที่มีชาวบ้านและเจ้าของรีสอร์ตบนภูทับเบิก ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อให้แก่ทางการ
แหล่งข่าวที่มาไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/696353‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook