เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่อาคารราชวิริยาลังการ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ให้โอวาทในฐานะประธานในพิธีมอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2559 จำนวน 202 วัด ความว่า “ขออนุโมทนากับเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกท่าน ที่มารับพระราชทานวิสุงคามสีมา อันวิสุงคามสีมานั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้แต่ละวัด ใช้ในการพระศาสนาขณะที่วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมานั้น ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ที่สำคัญต้องดูว่าพื้นที่นั้นเป็นที่วัดอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตามรายงานเท่าที่ทราบมีบางวัดที่สร้างแล้ว แต่ไม่ได้รับวิสุงคามสีมาเพราะสร้างในพื้นที่ป่าสงวน และอุทยานแห่งชาติ อย่างไรก็ตามวัดที่ได้รับวิสุงคามสีมานั้น ขอให้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการดูแลรักษาวัดให้เรียบร้อยดีงาม และขอแนะนำให้สนองต่อพระมหากรุณาธิคุณด้วยการเชิญชวนญาติโยมทำความดีด้วยการรักษาศีล 5 ถวายพระองค์ ทั้งนี้ขอฝากโครงการศีล 5 กับผู้ว่าราชการทุกจังหวัดและผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เมื่อเกษียณอายุไปแล้วขอให้ช่วยขับเคลื่อนโครงการศีล 5 แม้โครงการศีล 5 จะสิ้นสุดโครงการในปี 2560 แต่ขอให้ขับเคลื่อนต่อไปโดยไม่สิ้นสุด
นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาต้องเป็นวัดที่มีคามมั่นคงถาวร เจ้าอาวาสต้องเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการบูรณปฏิสังขรณ์ และการพัฒนาวัดให้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2507) ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ข้อ 11 ที่ระบุว่า “วัดที่สมควรได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาต้องปรากฏว่าได้สร้าง หรือได้ปฏิสังขรณ์เป็นหลักฐานถาวรและมีพระภิกษุอยู่ประจำไม่น้อยกว่า 5 รูปติดต่อกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ระยะเวลา 5 ปี มิให้ใช้บังคับแก่วัดที่สร้างอุโบสถเรียบร้อย” ดังนั้นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในครั้งนี้ จึงเป็นวัดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามบัญญัติของกฎกระทรวง
ที่มาสำนักข่าวมติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/277111’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook