นายอำเภอหล่มเก่า ลุยเข้าปิดประกาศ 3 ผู้ประกอบการภูทับเบิกที่รุกป่าสร้างรีสอร์ตจนศาลพิพากษาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 7 วัน ก่อนกำหนดวันดีเดย์ 22 พ.ย.นี้ ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่…
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 14 พ.ย. นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า นายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารปกครองราว 30 นาย เดินทางไปปิดประกาศแจ้งเตือนรีสอร์ตและร้านกาแฟ 3 แห่งให้รื้อถอนภายใน 7 วัน ซึ่งประกอบด้วย ร้านกาแฟสมอลล์วิว รีสอร์ทเอวา และรีสอร์ทบ้านสายหมอก ทั้งหมดได้ถูกศาลพิพากษาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ต.ค.59 นายบุญลาภ สุกใส นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ได้นำคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 30 วัน คือทั้ง 2 ร้าน และรีสอร์ทบ้านสายหมอก อย่างไรก็ตามในวันนี้นายอำเภอหล่มเก่า ยังได้นำคำสั่งที่ลงนามโดยตนเองมาแจ้งเตือนให้รื้อถอนภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 21 พ.ย. และเจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนในวันที่ 22 พ.ย.นี้
ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดประกาศแจ้งเตือนร้านกาแฟสมอลล์วิวนั้น ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า กำลังระดมเร่งรื้อถอนแต่คงไม่ทันตามกำหนดเพราะคนงานไม่เพียงพอ เพราะไปเกี่ยวข้าวกันหมด และไม่อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามารื้อถอน เพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย ส่วนรีสอร์ทบ้านสายหมอกที่มีบ้านพักทำด้วยไม้และปูนจำนวน 6 หลังนั้นพบว่า เจ้าของได้รื้อถอนเกือบแล้วเสร็จเพียง 1 หลัง และที่รีสอร์ทเอวาที่มีบ้านพักปูนจำนวน 3 หลังนั้นพบว่ากำลังรื้อถอนได้ประมาณครึ่งเดียว เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดประกาศครบทั้งสามแห่ง และเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุขัดขวางแต่อย่างใด
ด้านนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผวจ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า การเข้าดำเนินการรื้อถอนตามคำพิพากษาจำนวน 3 แห่งนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเข้ารื้อถอนให้แล้วเสร็จเหมือนชุดแรก ส่วนรีสอร์ตในกลุ่มที่สองที่เหลืออีก 16 แห่งที่ยังไม่ถูกศาลตัดสินหรือมีคำพิพากษานั้น จะต้องชะลอการรื้อถอนไว้ก่อน คงจะต้องให้ศาลพิพากษาตัดสินก่อนถึงจะเข้าดำเนินการรื้อถอนต่อไป ซึ่งคงจะต้องขาดช่วงในการรื้อถอนไปตามระยะเวลาของการพิจารณาของศาล
ส่วนการเรียกเก็บค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ตชุดแรกที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้าจำนวน 19 ราย ที่มีค่าใช้จ่ายต้องเรียกเก็บจากผู้ประกอบการรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาทนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการเรียกคืนตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนผู้ประกอบการที่จะต้องเรียกเก็บค่ารื้อถอนมากที่สุดคือ โรงเตี๊ยม เป็นจำนวนเงิน 613,553 บาท อันดับสองคือ ทับเบิกภูฏาน จำนวน 404,167 บาท.
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/783027 ไทยรัฐออนไลน์’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook