หนุ่มใหญ่ขับปิกอัพรับส่ง นร.พุ่งชนต้นไม้ ที่เพชรบูรณ์ เจ็บ 20 ราย ก่อนเด็ก 5 ขวบ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สอบพบดื่มเหล้าขาวกับเพื่อน ก่อนมาขับรถรับนักเรียนช่วงเย็น แต่อ้างไม่เมาและไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์ ตร.จับส่งตรวจเลือดทันที …
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ร.ต.อ.พิทักษ์ ฝั้นสุข พนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุรถปิกอัพรับส่งนักเรียน ชนต้นไม้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนสายแก่งโตร-ห้วยไผ่ ในหมู่บ้านแก่งโตน หมู่ 2 ต.นาซำ อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านแก่งโตนราว 1 กิโลเมตรเศษ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.จรัล ศิริเจริญสุข รองผกก.ปป.สภ.หล่มเก่า, พ.ต.ท.จำเนียร คำวิเศษ รองผกก.สอบสวน, นายบุญลัน จันดวงตา หัวหน้าขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์สาขาอำเภอหล่มสัก, เจ้าหน้าที่แพทย์ทหารจากกองพล ม.1, หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า รุดไปให้การช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บและคนขับรถ รวม 21 ราย ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุ พบเป็นทางตรง ก่อนถึงทางโค้งเล็กน้อย ห่างจากโรงเรียนบ้านแก่งโตนราว 1 กิโลเมตรเศษ พบรถยนต์ปิกอัพตอนเดียว ใส่หลังคาสแตนเลสดัดแปลงเป็นรถรับส่งนักเรียน ยี่ห้อนิสสันบิ๊กเอ็ม สีเขียว หมายเลขทะเบียน บน 5713 เพชรบูรณ์ พุ่งชนต้นไม้ข้างทาง สภาพด้านหน้าพังยับกระจกหน้าแตกละเอียด พบร่องรอยเลือดไหลเปรอะทั่วพื้นรถและถนน จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า ทราบว่าผู้บาดเจ็บทั้งหมด 20 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านแก่งโตน อายุระหว่าง 4 ขวบ ถึง 12 ขวบ อยู่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงประถม 6
ต่อมา พบผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ทราบชื่อ เด็กชายภูวเดช กุลกรม อายุ 5 ขวบ ส่วนเด็กนักเรียนที่เหลือได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 ราย แพทย์ต้องส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ 4 ราย ส่วนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ทำแผลและให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ส่วนคนขับทราบชื่อ นายกันหา กันยาประสิทธิ์ อายุ 51 ปี ชาว อ.ด่านซ้าย จ.เลย อยู่ในสภาพพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง มีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้ง สอบเบื้องต้น นายกันหา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าขาวกับเพื่อนๆ จำนวน 2 แก้ว ก่อนมาขับรถรับนักเรียนช่วงเลิกเรียน พร้อมยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เมา
พ.ต.ท.จำเนียร คำวิเศษ รอง ผกก.ปป. จึงได้นำเครื่องเป่าตรวจวัดแอลกอฮอลล์มาให้นายกันหาเป่า แต่นายกันหาไม่ยอมเป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายกันหาส่งไปเจาะเลือด เพื่อหาปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดว่ามีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
ด้าน หัวหน้าขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาอำเภอหล่มสัก กล่าวว่า หลังจากที่เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุพบว่า ถนนดังกล่าวเป็นเส้นทางตรง และอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านแก่งโตนเพียง 1 กิโลเมตรเศษ ไม่ได้มีเส้นทางอันตรายแต่อย่างใด และสภาพรถก็ไม่ได้มีการชำรุด เบรกเสียหรือยางแตก มีเพียงร่องรอยของการเกิดอุบัติเหตุจากการชนต้นไม้เท่านั้น ส่วนรถคันนี้ได้ตรวจสอบประวัติทะเบียนที่สำนักงานขนส่งแล้ว พบว่า ภาษีขาดต่อตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 และ พ.ร.บ.รถยนต์ก็ขาดด้วยเช่นกัน.
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/864487‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook