จังหวัดเพชรบูรณ์เตรียมปิดประกาศรื้อรีสอร์ททับเบิกเพิ่มอีก 5 ราย โดยไม่รอคำสั่งศาล หลังอัยการสั่งฟ้อง

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจะดำเนินการแจ้งและปิดคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 โดยให้ออกจากป่าภูทับเบิก ให้รื้อถอนและทำลายสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้ป่าภูทับเบิกกลับคืนสภาพเดิมหรือใกล้เคียงสภาพเดิมนั้น ซึ่งเดิมทีจะดำเนินการหลังจากมีคำพิพากษาของศาลแล้ว ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกันว่าเพื่อให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าภูทับเบิกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการทยอยปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนอย่างต่อเนื่องเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน จึงเปลี่ยนหลักเกณฑ์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจะดำเนินการดังกล่าวใหม่ จากเดิมจะดำเนินการแจ้งและปิดคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฯ หลังจากมีคำพิพากษาของศาลแล้ว เปลี่ยนเป็นจะดำเนินการแจ้งและปิดคำสั่งเจ้าหน้าที่ฯ หลังจากที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วและหากเจ้าของหรือผู้ครอบครองยังไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการ ยึด รื้อถอน ทำลาย หรือกระทำการอื่นใดแก่สิ่งปลูกสร้างตามลำดับขั้นตอนต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากได้เข้าดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ทภูทับเบิก ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 35/59 ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยังคงเหลือรีสอร์ทที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนอีก 21 ราย และเป็นคนม้งในพื้นที่ อีก 50 ราย ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการระดับจังหวัด จะเข้าดำเนินการต่อโดยไม่รอคำพิพากษาจากศาล เพราะถูกทิ้งช่วง ส่งผลให้ไม่สามารถนำสู่กระบวนการพัฒนาฟื้นฟูได้ นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ป่าไม้จังหวัดเร่งรัดพนักงานสอบสวน เพื่อส่งสำนวนที่เหลือสู่อัยการ เพื่อดำเนินการต่อไป ในขณะเดียวกันทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ไดลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียดและวางแบบโครงสร้างที่ชัดเจน ควบคู่กับแผนแม่บทแก้ไขฟื้นฟูภูทับเบิก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดที่ยั่งยืนต่อไป

ด้าน พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี รอง ผบ.พล.ม.1 กำชับให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ลงทำงานด้านการข่าวไปพร้อมๆ กับเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับราษฎรชาวม้งในพื้นที่ รวมทั้งขอให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะรัฐบาลต่างให้ความสำคัญ เพราะจะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ภูทับเบิกไปเป็นโมเดล เพื่อปรับใช้กับพื้นที่ในหลายจังหวัดที่มีปัญหาคล้ายกัน นอกจากนี้จากการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การรื้อถอนรีสอร์ตแบบใหม่ เชื่อว่าไม่มีแรงกระเพื่อมหรือการต่อต้านในพื้นที่ โดยวันที่ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้ จะนำคณะเจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการปิดคำสั่งให้รีสอร์ต อัยการสั่งฟ้อง ทั้ง 5 ราย ได้แก่ ทับเบิกฮิลล์รีสอร์ต หมู่ 16 ต.วังบาล รีสอร์ตกอดภูทับเบิก หมู่ 16 ต.วังบาล ไร่แสนรักรีสอร์ต หมู่ 16 ต.วังบาล รีสอร์ตเคียงดาว หรือภูนับดาว หมู่ 8 ต.บ้านเนิน และ รีสอร์ตบีบีเอ็ม หมู่ 8 ต.บ้านเนิน ให้ทำการรื้อถอนเองภายใน 30 วัน และให้โอกาสอีก 7 วัน หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการทางคณะเจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนให้ โดยจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในภายหลัง