เพชรบูรณ์-ไฟไหม้อาคารไม้ย่านชุมชนเมืองวอด 5 คูหาและบ้านพักอีก 2 หลังที่ถูกเพลิงเผาวอด

วันที่ 26 มีนาคม 2017

คนอ่านข่าว: 194

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video%2f2560%2f03%2f26%2fMobile%2fVNOHT600326001005201_26032017_053156.mp4″ width=”640″ height=”360″ autoplay=”true”]

ชมคลิป

เวลา 12.30 น.วันที่ 26 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้องแถวไม้ บริเวณถนนพุทธบาท ใกล้สี่แยกธนาคารกรุงเทพฯ ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจดเขตใจกลางของเมืองเพชรบูรณ์ โดยเพลิงได้ลุกติดอาคารห้องแถวไม้เก่า ร้านซ่อมไฟฟ้าซึ่งเจ้าของไม่อยู่ภายในบ้านพัก จากนั้นเพลิงได้ลุกลามไหม้ติดไปยังห้องแถวข้างเคียงและบ้านพักบริเวณหลังห้องแถว ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของราษฎรที่พักอาศัยอยู่บริเวณข้างเคียง โดยเฉพาะร้านค้าจำหน่านแก๊สหุงต้มซึ่งอยู่ตรงกันข้ามจากอาคารไม้ที่เพลิงกำลังลุกไหม้ กระทั่งต่างต้องนำสายยางต่อน้ำประปามาฉีดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนจนเพลิงลุกติด นอกจากนี้ชาวตลาดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ต่างพากันตื่นตระหนก เนื่องจากช่วงเกิดเพลิงไหม้ได้มีกลุ่มควันดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นเหนือท้องฟ้าจนเห็นกันทั่วทั้งเมือง

ต่อมาเจ้าหน้าบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์พร้อมอาสาสมัครกู้ภัย และรถดับเพลิงทั้งจากเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์และรถฉีดน้ำจากกองพลทหารที่ 1 รวมทั้งรถน้ำองค์การบริหารส่วนองค์จังหวัดเพชรบูรณ์และองค์กรปกคครองส่วนทองถิ่นข้างเคียงจำนวนกว่า 15 คัน ได้ถูกระดมเข้าช่วยฉีดน้ำเพื่อเร่งสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปติดอาคารและตึกข้างเคียง นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจาก ม.พัน 26 กองพลทหารม้าที่ 1 ถูกระดมเข้ามาช่วยสนับสนุนการฉีกน้ำสกัดเพลิงดังกล่าว

ต่อมานายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์, พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี รองผบ.พล ม. 1 พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รวมทั้งนายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ อดีตนายกเทศมนตรีฯ หลังได้รับรายงานจึงเร่งเดินทางมาช่วยอำนวยการดับเพลิงในจุดเกิดเหตุ กระทั่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาราวเกือบ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์วัสดุที่ยังลุกติดเพลิงอย่างประปรายในจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต่
มีรายงานความเสียหายมีอาคารห้องแถวไม่เก่าจำนวน 5 ห้องและบ้านพักอีก 2 หลังที่ถูกเพิงเผาวอด ส่วนสาเหตุล่าสุดอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์

ข่างแจ้งว่า หลังเพลิงสงบนางแก่ ศักดิ์เศรณี อายุ 67 ปี พยายามเข้าไปสำรวจทรัพย์สินที่ถูกเพลิงเผาจนวอดไปกับบ้านพัก ซึ่งพบสมุดภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งบริเวณส่วนขอบมีร่องรอยถูกเพลิงเผาไหม้ แต่รูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขณะทรงงานกลับไม่มีร่องรอยถูกเพลิงไหม้ นางแก่จึงเก็บออกมากระทั่งราษฎรที่พบเห็นต่างพากันแตกตื่นฮือฮาด้วยความอัศจรรย์ใจ จากนั้นไม่เพียงขอชมสมุดที่มีภาพในหลวงเท่านั้น แต่ยังพากันรุมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบันทึกภาพและวีดีโอเก็บไว้ด้วยความชื่นชมบารมีในหลวงรัชกาลที่ 9 ในขณะที่นางแก่กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุไม่อยู่ไม่ได้อยู่ภายในบ้านพัก มีเพียงแต่มารดาอายุ 102 ปีและพี่สาวอายุ 72 ปี หลังเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านมาช่วยอุ้มมารดาออกจากบ้านพัก ส่วนทรัพย์สินไม่ได้อะไรติดตัวออกมาทั้งสิ้น