อธิบดีกรมป่าไม้ ย้ำไม่มี 2 มาตรฐานปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า พร้อมเร่งตรวจสอบการครอบครองที่ดินพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก จ.เพชรบูรณ์

อธิบดีกรมป่าไม้ ย้ำไม่มี 2 มาตรฐานปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า พร้อมเร่งตรวจสอบการครอบครองที่ดินพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หากพบผู้กระทำผิดดำเนินคดีทางกฎหมายทันที

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงกรณีนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน โพสต์ภาพถ่ายทางอากาศที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในเฟซบุ๊คมีรีสอร์ทตั้งอยู่บนที่ดินที่จัดให้กับราษฎรอาสาทำกินเพื่อทำการเกษตรและมีนายทุนเข้ามาซื้อโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่กระทำผิดได้ ว่า ช่วงปี 2554 – 2559 พบว่า มีสิ่งก่อสร้างลักษณะรีสอร์ท 400 แห่ง ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 64 แห่ง ส่วนรีสอร์ทที่โพสต์อยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก แปลงที่ 2 ขณะนี้คณะทำงานสำรวจพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่กองทัพภาค 3 ขอใช้ประโยชน์ท้องที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงการถือครองที่ดินดังกล่าว ส่วนการจะใช้มาตรา 44 ต้องขึ้นอยู่กับสภาวการณ์และลักษณะพื้นที่ที่แต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน เช่น พื้นที่ภูทับเบิกเป็นพื้นที่ป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เมื่อพบการกระทำผิดไม่สามารถรื้อถอนได้ต้องนำเรื่องสู่กระบวนการฟ้องทางแพ่งเพื่อขับไล่ ประกอบกับผู้กระทำผิดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความเป็นอยู่ของราษฎรทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการระงับ ปราบปราม และป้องกันการกระทำดังกล่าว ขณะที่พื้นที่เขาค้อที่กองทัพภาค 3 ขอใช้ประโยชน์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจดำเนินคดีและรื้อถอนภายใต้กรอบของกฎหมายพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ดังนั้น การป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้จะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ จึงไม่ใช่การปฏิบัติ 2 มาตรฐานแน่นอน ปัจจุบันกรมป่าไม้ กองทัพภาค 3 และจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ดำเนินการตรวจสอบการครอบครองที่ดินพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งหมด หากพบว่ามีรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกองทัพภาค 3 จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปอย่างจริงจังและเด็ดขาด

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวย้ำว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อ ป่าวังชมภู และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล คือ ตำบลเขาค้อ ตำบลสะเดาะพง ตำบลริมสีม่วง และตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยกองทัพภาค 3 ได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี 2520 – 2533 จำนวน 5 ครั้ง 8 แปลง รวมพื้นที่ 126,368 ไร่ เพื่อจัดสรรให้ราษฎรอาสาสมัครอยู่อาศัยทำกินตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ แล้วต่อมาปี 2555 จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทำหนังสือถึงกรมป่าไม้เพื่อส่งมอบพื้นที่คืนบางแปลง ทั้งนี้กรมป่าไม้ ขอให้จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์จัดส่งรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่ได้จัดสรรให้หน่วยงานราชการและโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก ว่ามีแปลงที่ปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขและแปลงที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดกี่แปลง พร้อมแผนที่ที่เกี่ยวข้อง