LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
เรือนจำหญิงเพชรบูรณ์ แจ้งสกัด นญ.พูลศรี พลธานี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เรือนจำหญิงเพชรบูรณ์ หลบหนีจาก รพ.เพชรบูรณ์ ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อทำคลอด โดยทิ้งลูกไว้ที่ รพ.แล้วหลบหนีไปเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้(29 เม.ย.60)พบเห็นแจ้งเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์ หรือโทร 191
นักโทษหญิงใช้จังหวะคลอดลูก หลบหนีออกจาก รพ.ที่เพชรบูรณ์ ตร.เร่งออกตามหา สุดเศร้า! ทารกน้อยไม่มีญาติรับไปดูแล ผู้คุมต้องนำกลับไปเลี้ยงต่อที่เรือนจำ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 60 ร.ต.ท.พชรเดช รุ่งสว่าง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุผู้ต้องขังหญิงหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำเพชรบูรณ์ โดยนายปริมาตร ขุนแก้ว นักทัณฑวิทยาชำนาญการเรือนจำเพชรบูรณ์ เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีและติดตามตัว นักโทษหญิงคดียาเสพติดชื่อ นญ.พูลศรี พลธานี ที่ได้ก่อเหตุหลบหนีหลังคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ช่วงบ่ายวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นญ.พูลศรี ถูกจับกุมตัวพร้อมยาบ้าเมื่อช่วงเดือน ม.ค. 60 ขณะตั้งท้องได้ 5 เดือน ภายหลังศาลจังหวัดเพชรบูรณ์มีคำพิพากษาตัดสินจำคุก นญ.พูลศรี เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ นญ.พูลศรี ได้ครบกำหนดคลอดจึงได้ประสานญาติของ นญ.พูลศรี ให้มารอรับบุตรที่จะเกิดไปเลี้ยง แต่ไม่มีญาติรับอุปการะ
โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำจึงควบคุมตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เพื่อทำคลอด ได้บุตรเพศหญิง ก่อนเตรียมตัวนำสองแม่ลูกเข้าดูแลในเรือนจำเพชรบูรณ์ หลังคลอดบุตร นญ.พูลศรี ได้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนวดแผนไทยของโรงพยาบาล และอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอจึงหลบหนีออกไป
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลพบว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เป็นคนพา นญ.พูลศรี หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปที่บ้านชายต้องสงสัย แต่ไม่พบตัวทั้งสองคน
อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ชายคนดังกล่าวได้ยืมรถจักรยานยนต์ของคนรู้จักหายไปช่วงกลางดึกหลังเกิดเหตุ กระทั่งขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวมีชื่ออยู่ในแฟ้มประวัติเครือข่ายยาเสพติดของ นญ.พูลศรี ส่วนบุตร นญ.พูลศรี เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวไปอุปการะดูแลในเรือนจำ เพราะไม่มีญาติมารับไปอุปการะแต่อย่างใด.
(ภาพชายต้องสงสัย จากตำรวจชุดจับกุม)
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/927498’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook