LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
หนุ่มเพชรบูรณ์สั่งซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 6 ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กขายของ แต่ต้องตกใจเมื่อได้รับของมีเพียงกล่องเปล่าของไอโฟน 4S พร้อมสายชาร์ตเก่าและปลั๊กไฟ
หนุ่มวัย 18 ปี ที่อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ร้องสื่อ ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงขายสินค้าทางเพจขายของออนไลน์ โดยได้สั่งซื้อไอโฟน 6 แต่ได้เพียงกล่องเปล่า และสายชาร์ทเก่าๆ 2 เส้น สูญเงินกว่าครึ่งหมื่นบาท
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากวัยรุ่นชายรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ว่า ถูกหลอกลวงซื้อขายสินค้าสูญเงินครึ่งหมื่น หลังจากสั่งซื้อโทรศัพท์ไอโฟน6 ผ่านเพจขายของออนไลน์แล้วได้ของไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ โดยในช่วงแรกพยายามติดต่อ เจรจาขอเงินคืนจากผู้ขายแต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง และผลัดวันไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง จึงตัดสินใจขอให้สื่อช่วยเหลือ
จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบนายภาณุวัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เห็นเพจเฟซบุ๊กหนึ่ง ประกาศขายไอโฟน6 ในราคาเกือบ 10,000 บาท ซึ่งตนก็กำลังมองหาโทรศัพท์ใช้งานอยู่พอดี จึงได้ลองติดต่อสอบถามต่อรองราคา ซึ่งทางคนขายพยายามหว่านล้อม และอ้างว่าร้อนเงิน ต้องการนำเงินไปรักษาลูกที่โรงพยาบาล โดยเสนอราคาที่น่าสนใจ เพียง 5,200 บาท ตนจึงตกลงซื้อขาย และรีบออกไปโอนเงินให้ทันที เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560
เมื่อผู้ขายได้รับเงินแล้ว จึงได้ดำเนินการส่งสินค้าในรูปแบบพัสดุผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งช่วงที่รอรับพัสดุยังคงโทรติดต่อกันได้ 2-3 ครั้ง กระทั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม 2560 ตนได้รับพัสดุด้วยความดีใจ จึงรีบแกะดู ถึงกับผงะ เมื่อสินค้าที่ตกลงกันว่าเป็นโทรศัพท์ไอโฟน 6 กลับกลายเป็นเพียงกล่องเปล่าของโทรศัพท์ไอโฟน 4S พร้อมสายชาร์จเก่าๆ 2 เส้น และหัวปลั๊ก 1 อัน เมื่อตั้งสติได้จึงรีบโทรติดต่อกลับไปยังเบอร์ที่เคยคุยกัน ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ พอเข้าไปสอบถามยังเพจเฟซบุ๊กก็พบว่าถูกบล็อคเรียบร้อย
จากนั้นในเวลาต่อมา ได้มีบุคคลที่สอง แอดเพื่อนเข้ามาพูดคุยกับตน ทำนองว่าบุคคลแรกนั้น เป็นเพียงคนกลาง ทำหน้าที่เป็นคนประกาศขายเท่านั้น ได้รับค่าจ้างราคา 200 บาท และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยขณะนี้เงินทั้งหมดอยู่กับบุคคลที่สอง ซึ่งอ้างว่าจะดำเนินการส่งโทรศัพท์ไอโฟน 6ให้ใหม่ในภายหลัง พอสอบถามถึงวันเวลาที่ชัดเจน ก็พยายามบ่ายเบี่ยง และติดต่อยาก สุดท้ายจึงขอให้โอนเงินคืน แต่ก็เงียบหายไป
ล่าสุด ตนจึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เดินทางร้องสื่อ พร้อมทั้งเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองไผ่ หวังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตาม นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่อยากให้ไปกระทำลักษณะเช่นนี้ กับบุคคลอื่นอีกต่อไป อีกทั้งจะได้ทำการตรวจสอบว่า ชื่อ ที่อยู่ที่ปรากฏ มีตัวตนถูกต้องและเกี่ยวข้อง หรือไม่.
ขอขอบคุณที่มาข่าว http://www.amarintv.com/news-update/news-482/38662/‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook