จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต

โครงการเกษตรแปลงใหญ่ประชารัฐ การผลักดันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมุ่งขับเคลื่อนให้เกษตรกรรายย่อยมีอาชีพเดียวกัน เกิดการรวมกลุ่มกัน เกิดการวางแผนการตลาดเพื่อนำไปสู่ การลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต มีการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถ ในการแข่งขันของสินค้าเกษตร ภายใต้การสนับสนุนและบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคีต่างๆ

จังหวัดเพชรบูรณ์ มีการดำเนินการ ตามโครงการของรัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คือ โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐ ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 26 แปลง หนึ่งในนั้นที่ บ้านโคกสาร ตำบลซับพุทรา อำเภอชนแดน เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ปี 2559 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐ จำนวน 200 ราย เนื้อที่ 5,000 ไร่ ดำเนินการปลูก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่

นายสมาน โกศาจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านโคกสาร ตำบลซับพุทรา อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ประธานโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐ(แปลงต้นแบบ) ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของศูนย์ส่งเสริม การเกษตรแบบแปลงใหญ่ประชารัฐ ในพื้นที่ของตำบลซับพุทรา ว่าเป็นการรวมกลุ่ม ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมกันจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต

นายประเสริฐ ดอยลอม เกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึง นโยบายส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เป็นนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อทำเกษตรแปลงใหญ่ ลดต้นทุนการการผลิต เน้นให้มีการถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกัน และรับการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐ

นายการะเวก เมฆสันต์ เกษตรกร สมาชิกเกษตรแปลงใหญ่ บ้านโคกสาร ตำบลซับพุทรา อำเภอชนแดน ได้กล่าวถึง สิ่งที่ได้รับความรู้จากการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ว่า สามารถช่วยเหลือเกษตรกรลดต้นทุนการผลิตได้อย่างแท้จริง แต่สิ่งที่ยังเป็นอุปสรรคอยู่ คือแหล่งน้ำ อยากให้มีการขุดบ่อบาดาลไว้ใช้ เพื่อบรรเทาผลกระทบยามที่เกิดภัยแล้ง

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนนโยบายการจัดทำเกษตรแบบแปลงใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 ได้ตั้งเป้าหมายการขับเคลื่อนการเกษตรแบบแปลงใหญ่ให้ได้ 1,500 แปลง ดำเนินการเกษตรแบบแปลงใหญ่ นำเอานโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปบูรณาการขับเคลื่อน ให้ครอบคลุมทั้งหมด ทั้งการทำเกษตรอย่างประณีต การทำการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีทำการเกษตร การลดต้นทุน-เพิ่มผลิต การบริการจัดการที่ดี รวมถึงการทำการตลาดอย่างครอบคลุมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน