ตามไปดูหมีควาย “เจ้าแก้ว” หลังเข้าสู่กรงสวนสัตว์เปิดเขาค้อ เปิดใจคนเลี้ยงเจ้าแก้วหน้าเศร้าอยากเอากลับมาดูแลต่อ ด้าน จนท.จับแยกเดี่ยวเพื่อให้สัตว์ปรับตัว และเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เจ้าแก้วกลับวัด เพราะเป็นของกลางที่ถูกตรวจยึดไว้…
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 60 ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่สวนสัตว์เปิดเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ สอบถาม สุธีร์ ลอยมา หัวหน้าสวนสัตว์เปิดเขาค้อเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้รับตัวเจ้าแก้ว หมีควายที่กัด นายฝน พรหมลัทธิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/1 หมู่ 12 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ขณะไปขอหมูป่าแล้วไปแหย่หมีจนถูกกัดสาหัส เหตุเกิดวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ที่สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย หมู่ 8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุชาวบ้านช่วยเหลือนำนายแก้วส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ อาการสาหัส ล่าสุดแพทย์รอดูอาการใกล้ชิดที่ห้องไอซียู หลังเกิดเหตุได้นำเจ้าแก้วมาเลี้ยงไว้ที่สวนสัตว์เปิดเขาค้อในช่วงเย็นวันเกิดเหตุ
นายสุธีร์ ลอยมา หัวหน้าสวนสัตว์เปิดเขาค้อ กล่าวว่า ภายหลังจากรับตัวมาแล้ว ได้นำไปขังไว้ตัวเดียวภายในกรงของสวนสัตว์ สังเกตพบว่าเจ้าแก้วมีอาการเซื่องซึมเหม่อลอยทานอาหารได้เล็กน้อย ได้ให้อาหารเป็นกล้วยและมะละกอและแก้วมังกร เบื้องต้น ยังไม่พบบาดแผลหรืออาการบาดเจ็บ ซึ่งธรรมชาติของหมีจะชอบความสงบ ไม่ชอบวุ่นวาย แต่จากที่ถูกคนใช้ไม้ตีและร้องตะโกนใส่อาจเป็นสาเหตุให้หมีมีอาการเครียดสะสม โดยสวนสัตว์มีความจำเป็นจะต้องให้หมีอยู่เพียงลำพัง เพื่อปรับสมดุลของสภาวะจิตใจให้หายเครียด จึงไม่อยากให้คนไปแหย่ หรือสร้างความเครียดให้กับหมี คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องปรับสภาพให้หมีมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น คงยังระบุเงื่อนเวลาไม่ได้ คงจะต้องหาแนวทางต่อไปว่า สวนสัตว์เปิดเขาค้อแห่งนี้จะรับดูแลหมีต่อไป โดยการให้ไปอยู่ร่วมกับตัวอื่น หรือขยายพื้นที่กรงให้กว้างขึ้น หรือส่งไปอยู่สถานที่แห่งอื่นต่อไป
หัวหน้าสวนสัตว์เปิดเขาค้อ กล่าวอีกว่า ส่วนมีกระแสอยากให้ส่งหมีกลับคืนสู่สถานที่เลี้ยงเดิม คงไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะหมีเป็นสัตว์ป่าและเป็นของกลางที่ถูกตรวจยึดเอาไว้ เราจะต้องทำตามกฎหมายดูแลสัตว์ป่า และกรมอาจจะส่งสัตวแพทย์จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อมาตรวจสุขภาพหมีโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน นางวันดี ขันสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ชาวอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ คนเลี้ยงดูเจ้าแก้วตั้งแต่เล็กๆ กล่าวว่า เจ้าแก้วไม่เคยทำร้ายใคร ไม่มีอาการดุร้าย และไม่เคยทำร้ายหมูที่อยู่ด้วยกัน ภายหลังจากที่ได้ไปเยี่ยมเจ้าแก้วมานั้น พบว่าเจ้าแก้วมีอาการเซื่องซึม และดีใจ หลังจากที่ได้ยื่นมือไปจับมือกับตนเอง ทำให้มีน้ำตาซึมทั้งตนเองและหมี โดยส่วนตัวตนเองมั่นใจว่าสามารถดูแลเลี้ยงดูเจ้าแก้วได้ และบอกผ่านสื่อไปแล้วว่า ได้ประกาศเลิกแจกหมูป่า เพราะแต่ละรายที่มานั้นเหมือนมาปล้นจี้สั่งเอา จะเอา 5 ตัว 10 ตัว ที่สำคัญเราไม่รู้ว่าเขาจะเอาหมูป่าไปดูแลดีตามที่ตกลงหรือไม่ จะขอเลี้ยงดูกันต่อไป
คนเลี้ยงดูเจ้าแก้ว กล่าวอีกว่า หากมีใครอยากบริจาคอาหารก็นำมาได้ ไม่ขัดข้องส่วนกองทุนอะไรก็ไม่เอาแล้ว ถ้าหากไม่แจกหมูป่าและไม่มีคนมาเจ้าแก้วก็คงได้อยู่กับตน และสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่อไปอีกนานแสนนาน และที่สำคัญวันเกิดเหตุเหมือนเจ้าแก้วอยากหยอกล้อเล่นเท่านั้น หากเจ้าแก้วจะทำร้ายคนจริงๆ ป่านนี้คงตายไปแล้ว เพียงแต่เค้าเป็นสัตว์ใหญ่พละกำลังมาก และอาจเกิดจากอาการหงุดหงิดที่คนเมาสุราไปแหย่และดึงตัวเค้าไว้
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบสถานที่เลี้ยงเจ้าแก้ว พบว่าเป็นกรงขนาดใหญ่ที่แบ่งเป็นตัวอาคารปูนมีหลังคา และกั้นด้วยประตูเหล็ก ภายในเทปูน มีการดูแลความสะอาดได้ดีมาก ส่วนภายในเปิดกว้างมีเครื่องเล่นและบ่อน้ำสำหรับหมีตัวอื่นๆ ขณะเข้าไปพบเจ้าแก้วนั้นยังนอนหลับอยู่ และเมื่อมันตื่น เจ้าหน้าที่ได้หยิบผลไม้ส่งให้ เจ้าแก้วก็มีอาการสงบ และกินผลไม้ได้ตามปกติ มีบางครั้งเพื่อนหมีที่อยู่ในโซนไม่มีหลังคาได้เข้ามาหยอกล้อเล่นผ่านประตูเหล็ก เจ้าแก้วก็มีอาการร่าเริง และหยอกล้อสนุกสนานปกติ.’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook