เจ้าแก้ว หมีควายสวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย หลังก่อเหตุกัดคน ถูกนำมาที่สถานีเพาะเลี้ยงเขาค้อแยกขังตัวเดียว ท่าทางเซื่องซึม จนเกิดกระแสดราม่าพาหมีกลับบ้าน ล่าสุดสุขภาพดีขึ้น เริ่มหยอกล้อเล่นกับคนเลี้ยง ปรับตัวได้ดีกับที่อยู่ใหม่…
วันที่ 10 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าแก้ว หมีควายเพศเมีย อายุ 6 ปี ที่ถูกเลี้ยงร่วมกับหมูป่า 500 ตัว ที่สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย หมู่ 8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ก่อเหตุกัด นายฝน พรหมลัทธิ์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านที่ไปขอหมูป่าแล้วไปแหย่หมี จนพลัดตกไปในคอกเลี้ยง ถูกหมีกัดอาการสาหัส เหตุเกิดวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ อำเภอเขาค้อ นำหมีแก้วเข้ามาเลี้ยงไว้ในกรงเพียงลำพังตัวเดียว ภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ให้สัตวแพทย์เข้าตรวจเช็กสุขภาพอย่างละเอียด จนเมื่อ พระธเนศ ติขยาโณ ผู้ดูแลสำนักสงฆ์หลวงปู่ละมัย และนางวันดี อยู่ขันธ์สวัสดิ์ คนเลี้ยงหมีแก้วตั้งแต่เล็กเดินทางมาเยี่ยม พบหมีแก้วเซื่องซึมไม่กินอาหาร จึงประกาศขอนำหมีกลับไปเลี้ยงที่เดิม โดยพร้อมจะทำกรงให้สูงกว่าเดิม หากได้กลับไปดูแล สร้างกระแสดราม่าช่วยหมีกลับบ้านในโลกโซเชียลอย่างล้นหลาม
ล่าสุด นายสุธีร์ ลอยมา หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้รับตัวเจ้าแก้วมาเลี้ยงจึงได้แยกขังตัวเดียวเพื่อปรับสมดุลสภาพจิตใจเสียก่อน ซึ่งแรกรับก็มีอาการเซื่องซึม อาจเกิดจากเปลี่ยนสถานที่อยู่ใหม่และคนเลี้ยงใหม่ แต่วันนี้สุขภาพจิตถือว่าดีขึ้นตามลำดับ มีความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของที่นี่และคนเลี้ยงใหม่ สามารถรับการกระตุ้นได้ดีขึ้น เมื่อคนเลี้ยงเรียกชื่อก็หันมามองและเล่นด้วย โดยสถานีฯ ได้จัดทำแคร่ไม้จำลองแบบเดิมที่หมีเคยใช้ ซึ่งการรับสัตว์ป่าที่เป็นของกลางมาเลี้ยงนั้นเป็นหน้าที่หลักอยู่แล้ว แต่กรณีหมีแก้วนั้น เจ้าหน้าที่มีความกดดัน วิตกกังวลพอสมควรจากกระแสการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายในโลกโซเชียล
ด้านสัตวแพทย์หญิง นันทิตา รักษาชาติ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ผู้ตรวจดูแลสุขภาพหมีแก้ว เปิดเผยว่า แรกรับเข้ามาดูแลนั้น หมีแก้วอ้วนมาก ขนไม่เงางาม มีอาการเซื่องซึมเพราะเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ กินอาหารได้น้อย ตรวจพบแผลบาดเจ็บที่ตาซ้ายที่เกิดจากการถูกทุบตี และมีน้ำมูกไหล ที่อาจเกิดจากอาการหนาวเย็นที่หมีแก้วไม่เคยชิน จึงได้ให้ยาลดไข้และแก้ปวดไป ล่าสุด สุขภาพดีขึ้นมาก มีอาการร่าเริง กินอาหารได้มาก และหยอกล้อเล่นกับคนเลี้ยง โดยได้จัดมะพร้าวไว้ให้เล่นภายในกรงเพื่อลดความเครียด และเฝ้าดูอาการแบบวันต่อวัน
สัตวแพทย์หญิง นันทิตา กล่าวต่ออีกว่าจากที่ดูคลิปแล้ว คาดว่าหมีแก้วทำร้ายนายฝนนั้นเกิดจากสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ที่แม้จะเลี้ยงใกล้ชิดคนตั้งแต่เล็กก็ไม่ควรประมาทและควรระมัดระวัง เพราะสัตว์มีอารมณ์รักและเกลียด เหมือนอารมณ์ของมนุษย์ แต่ในกรณีของเจ้าหมีแก้วนั้นคงไม่มีเจตนาจะฆ่าคน แค่หมีใช้มือตบเบาๆ ก็แย่แล้ว เพราะด้วยน้ำหนักขนาดลำตัวและกรงเล็บขนาดนี้ หากหมีตั้งใจจะทำร้ายคนจริงๆ ก็คงไม่รอด
“เคยรู้จัก หมีแก้ว ขณะไปเคลื่อนย้ายและเลี้ยงหมีแก้ว เมื่อปี 2555 อยู่พักหนึ่ง ก่อนส่งกลับไปให้ที่วัดเลี้ยงดู พบว่าเป็นหมีที่ค่อนข้างเชื่อง เมื่อทราบจากข่าวยังรู้สึกแปลกใจ และตกใจที่หมีแก้วทำร้ายคนได้อย่างไร และไม่แน่ใจว่าขณะเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายปฏิบัติต่อกันอย่างไร หรือทำอะไรที่หมีไม่ชอบหรือโกรธ จึงดึงร่างตกลงในคอกเลี้ยง จนเกิดเหตุการณ์หมีทำร้ายจนบาดเจ็บ สัตว์ก็มีความรู้สึกโกรธเหมือนกับมนุษย์ไม่แตกต่างกัน แต่สัตว์ไม่อดทนอดกลั้นได้เหมือนมนุษย์” สัตวแพทย์หญิง นันทิตา กล่าว.
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1034319‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook