แม่ทัพภาคที่ 3 ติดตามความคืบหน้าของคดีลอบวางระเบิดภูทับเบิกจังหวัดเพชรบูรณ์

พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ เข้ารับฟังบรรยายสรุป เหตุการณ์และความคืบหน้าของคดี ลอบวางระเบิดภูทับเบิกจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย พร้อมเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณข้างถนนแยกทางขึ้นลงภูทับเบิก โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง พล.ต.ต.สัณห์ โพธิรักษา ผบก.จว.เพชรบูรณ์ พ.อ.ถนัดพงษ์ โกศัยเสวี รอง ผบ.พล.ม.1 นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ทหารชุด อีโอดี กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง เข้าร่วมประชุมและเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

โดยก่อนการลงตรวจสอบในครั้งนี้แม่ทัพภาค 3 ได้ร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุป เหตุการณ์และความคืบหน้าของคดี ณ สถานีตำรวจภูธรอำเภอหล่มเก่า และภายหลังจากการประชุมเสร็จ แม่ทัพภาค 3 พร้อมคณะได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิด บริเวณข้างถนนแยกทางขึ้นลงภูทับเบิก โดยเจ้าหน้าที่ได้กั้นบริเวณโดยรอบไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปในบริเวณดังกล่าว และคณะทั้งหมดได้ใช้เวลาตรวจสอบและหารือประมาณกว่า 1 ชั่วโมง โดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใดอย่างไรก็ตามก่อนที่แม่ทัพภาคที่ 3 จะขึ้นรถได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่าผู้ก่อเหตุได้ทิ้งหลักฐานไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่น่าจะเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่

ส่วนสาเหตุของการระเบิดนั้น ยังไม่ชี้ชัดว่ามาจากประเด็นใด แต่ดูจากพยานหลักฐานในเหตุการณ์ น่าจะเชื่อมโยงกับการรื้อถอนรีสอร์ทภูทับเบิก ซึ่งก่อนหน้านี้ ระหว่างการรื้อถอนได้เกิดการกระทบกระทั่งกับผู้ประกอบการบางราย แต่เหตุการณ์ก็ไม่รุนแรงแต่อย่างใด กระทั่งมาเกิดการระเบิดดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดตั้งแต่มีปฏิบัติการรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิกดังกล่าว ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนจากชุด อีโอดี อีกครั้ง เบื่องต้นพบว่าเป็นการจุดระเบิดด้วยแหล่งพลังงานไฟฟ้า และคนจุดเป็นมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบต่อแผนงานการรื้อถอนรีสอร์ทภูทับเบิก ยังเดินหน้าตามแผนแม่บทแก้ไขภูทับเบิกต่อไป

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของภูทับเบิกยังมีประชาชนขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยนางสาววาทินี ไทยภักดี อายุ 31 ปี นักท่องเที่ยวเดินทางมาจากจังหวัดราชบุรี พร้อมเพื่อนอีก 4 คน กล่าวว่า ไม่รู้สึกว่ากลัวเหตุระเบิดแต่อย่างใดและรู้สึกประทับใจ ในอากาศที่หนาวเย็นและทะเลหมอกที่สวย คุ้มค่ากับการที่เดินทางมาไกล ส่วนบรรยากาศร้านค้า บริเวณหน้าปากทางเข้าภูทับเบิก เหลือพืชอยู่เพียงไม่กี่ร้าน จากการสอบถามร้านค้าได้เล่าว่า เนื่องจาก วันนี้เป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย ร้านค้าจึงเหลือเปิดเพียงไม่กี่ร้าน เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่เป็นชาวม้งในพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ต้องไปเพาะปลูกกะหล่ำ ร้านค้าส่วนใหญ่ จึงจะมาเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์

แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์