เจ้าคณะชนแดนโดนแฉตุ๋นด้วย
ตำรวจ บก.ป.ป.ป.เตรียมส่งสำนวนคดีเงินทอนวัดลอตสอง ผู้ต้องหา 19 คน มีทั้งพระชั้นผู้ใหญ่และฆราวาส ให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดแล้ว ในวันที่ 26 ก.ย. “ออมสิน ชีวะพฤกษ์” ระบุนายกฯสั่งการเองให้สืบหาตัวคนผิดมาลงโทษ ยังไม่พบพระชั้นผู้ใหญ่ใน มส.เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนพระที่ถูกแจ้งข้อหาอาจถูกออกหมายจับหากไม่มาพบตามหมายเรียกของตำรวจ ขณะที่ชาวบ้านใน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ แฉโดนพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าคณะอำเภอชนแดน 1 ในผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ตุ๋นเอาเงิน 2 แสนบาท อ้างฝากหลานเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหารได้
จากกรณี พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ป.ป.ป. สั่งการให้ตำรวจในสังกัดลุยตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัด ลอตสอง เป็นการทุจริตงบอุดหนุน 3 ประเภท ประกอบด้วย งบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และงบอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา-แผนกธรรม-แผนกบาลี รวม 23 วัด ระหว่างปี 55-60 ความเสียหาย 141 ล้านบาท จากงบอุดหนุนที่ให้ไป 181 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 19 คน 1 ในนั้นมีนายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และพระชั้นผู้ใหญ่ 4 รูป รวมอยู่ด้วย
ความคืบหน้า ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ป.ป.ป.) เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 ก.ย. พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ธนกุล รอง ผบก.ป.ป.ป. เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ป.ป.ป. ส่งตำรวจ กก.4 บก.ป.ป.ป. ไปพบพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าคณะอำเภอชนแดน แต่ไม่พบตัว วันนี้จึงออกหนังสือเชิญพระครูกิตติพัชรคุณ และพระสงฆ์อีก 3 รูป ประกอบด้วย พระราชรัตนมุนี เลขาสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะหนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการามฯ ย่านคลองสาน กทม. พระเทพเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯ ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และพระครูวิสุทธิวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธารามฯ ย่านบางกอกใหญ่ กทม. ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาผิดตาม ม.147 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเองฯ ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบฯ ม.68 การให้ความสะดวก สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฯ
“นอกจากนี้ บก.ป.ป.ป. ยังส่งหนังสือไปยัง มหาเถรสมาคม (มส.) และสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) เพื่อรายงานให้ฝั่งสงฆ์ทราบด้วย ขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 6 คน จากทั้งหมด 19 คน ยังไม่มีผู้ใดติดต่อเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 26 ก.ย. เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ป.ป.ป. พร้อมชุดพนักงานสอบสวน จะเดินทางนำสำนวนคดีเงินทอนวัดลอต2 ไปส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการชี้มูลความผิดตามขั้นตอน” พ.ต.อ.วรายุทธระบุ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องการให้เดินหน้าคดีเงินทอนวัด เริ่มจากภายในคือคนของ พศ.ก่อน จากนั้นค่อยสืบสวนออกไปว่ามีพระสงฆ์ หรือฆราวาสเกี่ยวข้องอย่างไร ทราบว่า นอกจากนายพนม ศรศิลป์ และนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ พศ.อีกหลายคนเกี่ยวข้อง ในส่วนพระสงฆ์ที่มีชื่อเกี่ยวข้องนั้น ทาง บก.ป.ป.ป.แจ้งข้อหาแล้ว เตรียมออกหมายจับตามขั้นตอนหากพระสงฆ์ที่ถูกแจ้งข้อหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ส่วนกระแสข่าวมีพระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม (มส.) เข้ามาเกี่ยวข้องนั้น เท่าที่ทราบยังไม่พบหลักฐานเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ด้านนายกนก แสนประเสริฐ รอง ผอ.พศ. รักษาราชการแทน ผอ.พศ. กล่าวว่า ตามที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการตรวจสอบพบความผิดปกติ 30 วัด เป็นวัดในพื้นที่ต่างจังหวัดทั้งหมด มีผู้เกี่ยวข้อง 13 คน และพระสงฆ์ระดับพระครู 2 รูปนั้น ขณะนี้ พศ.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับข้าราชการ พศ. ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องที่มีอยู่ 5 ราย เป็นระดับ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) และระดับ ผอ.กอง ส่วนอดีตข้าราชการ พศ.ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ทาง พศ.จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ รายชื่อที่ สตง.ส่งมานั้นพบรายชื่อของอดีตข้าราชการพศ. ที่ย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น ประกอบด้วย น.ส.ประนอม คงพิกุล ที่ถูกย้ายไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และนายพนม ศรศิลป์ ที่ถูกย้ายไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น พศ.ทำหนังสือแจ้งไปถึง 2 หน่วยงานให้รับทราบแล้ว ในส่วนของ ก.พ.ได้ทำหนังสือตอบกลับมายัง พศ.แล้วว่าจะร่วมกับ พศ. ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับ น.ส.ประนอม เนื่องจาก น.ส.ประนอมปัจจุบันเป็นข้าราชการสังกัด ก.พ.
นายกนกกล่าวต่อด้วยว่า ส่วนที่พนักงานสอบสวน บก.ป.ป.ป.แจ้งข้อกล่าวหากับพระเถระ 4 รูปนั้น ขณะนี้ทาง พศ.ยังไม่ได้รับการแจ้งสำนวนจาก บก.ป.ป.ป. คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งตามหลักการแล้วต้องส่งสำนวนมาให้ทาง พศ.รับทราบด้วย ทั้งนี้หากแจ้งสำนวนมายัง พศ.และมีพระภิกษุเข้าไปเกี่ยวข้อง พศ.ต้องทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในเรื่องข้อกฎหมาย รวมถึงจะให้ฝ่ายนิติกรเข้าไปดูแลด้านคดีด้วย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดลาดแค ต.ลาดแค จ.เพชรบูรณ์ หลังจากตำรวจ บก.ป.ป.ป. แจ้งความผิด 3 ข้อหาตาม ม.86 ม.147 และ ม. 157 กับพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอชนแดน ในคดีเงินทอนวัด เบื้องต้นยังไม่พบพระครูกิตติพัชรคุณ ขณะที่ลูกศิษย์นำผ้าตาข่ายสีเขียวมาล้อมรอบกุฏิพระครูกิตติพัชรคุณ ภายในวัดมีพระสงฆ์เพียงไม่กี่รูป บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าวัด เปิดเผยว่า ปกติภายในวัดจะมีรถหลายคันเข้า-ออก แต่วันนี้รถทั้งหมดหายไปพร้อมกับสิ่งของบางอย่างภายในวัด คาดย้ายไปที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พิจิตร ขณะที่นางจาระนัย พรมรักษา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 9 ต.ลาดแค อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ระบุด้วยว่าเคยถูกพระครูกิตติพัชรคุณหลอกว่าสามารถช่วยให้หลานชายเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหารได้ แลกกับเงิน 2 แสนบาท แต่หลานชายไม่สามารถเข้าเรียนได้ เมื่อทวงถามเงินถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อตามความคืบหน้าคดี แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ที่อนุสรณ์สถานพุทธวรญาณ (โรงเรียนวินิต แห่งที่ 2) ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี พระเทพเสนาบดี (พระราชพุทธิวราภรณ์) เจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหาร ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาแจ้งข้อหา เมื่อวันที่ 2 ก.ค. มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้ว ครั้งหนึ่ง ให้ฝ่ายกฎหมายของวัดมอบเอกสารต่างๆให้ไปตรวจสอบแล้ว ยืนยันเรื่องเงินสนับสนุนบูรณะวัดทำตามขั้นตอนและระเบียบราชการทุกอย่าง พร้อมที่จะเดินทางไปให้รายละเอียดกับตำรวจ หากมีหนังสือแจ้งมา
ข่าวไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/content/1080679‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook