วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีวางระเบิดบริเวณทางแยกปากทางเข้าภูทับเบิก เมื่อ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนั้น ล่าสุดหลังระยะเวลาผ่านไปครบ 2 เดือนแล้ว ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีก็ยังไม่สามารถจับกุม หรือควาญหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดหล่มสักได้อนุมัติหมายจับนายมา วงศ์ทับเบิก อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ 16 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ในฐานความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้เสียทรัพย์ ตามที่ พ.ต.อ.ชินเดช ดีแท้ ผกก.สภ.หล่มสัก พ.ต.ท.จำเนียร คำวิเศษ และ ร.ต.อ.พิทักษ์ ฟั่นสุข ได้ร้องขอ
ทั้งนี้ นายมา วงศ์ทับเบิก ผู้ต้องหามือลอบวางระเบิดบึ้มภูทับเบิกตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบูรณ์นั้นเป็นชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านทับเบิก ต.วังบาล และเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย-อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 16 อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของรีสอร์ต “ทับเบิกอินดี้” ซึ่งถูกอัยการสั่งฟ้องมาก่อนหน้านี้ กระทั่งเข้าสู่กระบวนการปิดคำสั่งให้รื้อถอนเอง
ต่อมานายมา วงศ์ทับเบิก ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดหล่มสัก โดยอ้างว่าเป็นชาวม้งในพื้นที่ มีคุณสมบัติได้รับการผ่อนปรนเช่นเดียวกับชาวม้ง 50 รายที่มีรายชื่ออยู่ในข่ายได้รับการพิจารณาอยู่ในพื้นที่ผ่อนปรน
แต่ขณะรอการพิจารณาได้มีเหตุบึ้มภูทับเบิกขึ้น ซึ่งระหว่างการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่านายมาได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จนทำให้ตกเป็นเป้าสงสัยว่ามีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้
ขอขอบคุณที่มาข่าวโดย: MGR Online https://mgronline.com/local/detail/9600000110544
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook