LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2025
ข่าวเด่นเพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ ก.ทรัพย์ คุมเข้มสวนยางของนายทุนที่ผิดกฎหมาย หลังตรวจพบมีการจ้างชาวบ้านนอกพื้นที่เข้ามาหาผลประโยชน์

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุมเข้มสวนยางของนายทุนที่ผิดกฎหมาย หลังตรวจพบมีการจ้างชาวบ้านนอกพื้นที่เข้ามาหาผลประโยชน์ ภาพรวมมีสวนยางประมาณ 30 ล้านไร่ คาด เป็นของนายทุนประมาณ 1.2 ล้านไร่
 
นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) พร้อม ชุดพยัคฆ์ไพร ได้สนธิกำลังศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4กอ.รมน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสวนยางพาราของนายทุนรายใหญ่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ตำบลศิลา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังได้รับแจ้งมีบุคคลเข้ามาลักลอบกีดยางพารา ซึ่งสวนยางดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว พบว่า เป็นสวนยางหลังบ้านหนองเขียว เนื้อที่หลายร้อยไร่บนเนินเขาที่มีความสูงชัน โดยตรวจสอบพบแคมป์คนงาน 5 หลัง จึงขอเข้าตรวจค้นภายในที่พักพบเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อีก 3 กระบอกบริเวณที่นอน ที่สำคัญพบอุปกรณ์การทำสวนยางภายในโรงเก็บของหลายรายการจึงแจ้งความดำเนินคดีฐาน เนื่องจากมีอาวุธปืนไว้ในตรอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปี 2490 และเปลี่ยนแปลงพื้นที่ให้มีหรือใช้เลื้อยโฅ่ยนต์แตกต่างจากใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ปี 2545 พร้อมนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม จากข้อมูลเชิงลึกพบว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าของสวนยาง ภาพรวมจังหวัดเพชรบูรณ์มีสวนยางพาราในเขตป่ากว่า 60,000ไร่ สามารถทวงคืนได้ 23,000ไร่ มีน้ำยาง 5.8 ตันต่อไร่ต่อปี ที่จะควบคุมไม่ให้ออกสู่ตลาด ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรฯ ได้ควบคุมผลผลิตยางพาราในเขตป่าด้วยการเข้มงวดตรวจสอบสวนยางพาของนายทุนที่ผิดกฎหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังพบข้อมูลมีกลุ่มทุนที่ถูกดำเนินคดีมีความพยายามเข้ามาหาผลประโยชน์จากสวนยางที่ผิดกฎหมาย โดยใช้วิธีการจ้างคนงานต่างพื้นที่เข้ามากีดน้ำยาง เนื่องจากข้อมูลกรมป่าไม้มีสวนยางประมาณ 30 ล้านไร่ แบ่งเป็น อยู่ในเขตป่าไม้ 8.5 ล้านไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 5.2 ล้านไร่ คาดว่า เป็นของนายทุนประมาณ 1.2 ล้านไร่ สามารถยึดคืนได้ 150,000 ไร่ ซึ่งจะมีน้ำยาง 360,000 ตันต่อไร่ต่อปี ที่จะควบคุมไม่ให้ออกสู่ตลาด
รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวย้ำว่า ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 1-4 และศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เฝ้าตรวจตราไม่ให้เข้าไปกีดยางในสวนยางของนายทุกที่ถูกดำเนินคดี โดยกรมป่าไม้ จะนำพื้นที่สวนยางพาราของนายทุนที่ยึดได้เปิดโอกาสให้ชุมชนในพื้นที่ใช้ประโยชน์ในรูปแบบป่าชุมชน หรือใช้ประโยชน์ในรูปแบบสหกรณ์ชุมชน หรือนำมาเป็นพื้นที่ป่าดังเดิม ส่วนพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1 และ ชั้น 2 จะต้องควบคุมโดยเปลี่ยนจากสวนยางพาราที่เป็นพืชเชิงเดียวให้เป็นป่าแบบผสมผสาน เพื่อให้ป่าต้นน้ำมีความสมดุลเรื่องการอนุรักษ์ดินและน้ำ
http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/WNEVN6011120020001

‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวเด่นเพชรบูรณ์ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด