ชาวบ้านอำเภอหล่มเก่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ แม่น้ำป่าสัก พร้อมใจประกอบพิธีสืบชะตาแม่น้ำป่าสัก

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2560/12/07/Mobile/VNOHT601207001012701_07122017_124127.mp4″ poster=”http://www.phetchabunnews.com/wp-content/uploads/2017/12/PNOHT601207001012701_07122017_124128.jpg” width=”640″ height=”360″]

ที่บริเวณแม่น้ำป่าสัก บ้านหินโง่น ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ว่าที่ร้อยเอก อานนท์ เชื้อเล็ก นายอำเภอหล่มเก่า และนางอรวรรณยา หุ่นทอง ประธานชมรมรักในหลวงจังหวัดเพชรบูรณ์ นำสมาชิกและชาวบ้านในพื้นที่กว่า 1,000 คน ร่วมพิธีสืบชะตาแม่น้ำป่าสักและปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งพิธีสืบชะตาแม่น้ำป่าสัก เกิดจากการรวมตัวกันของเครือข่ายชุมชนต้นน้ำ 6 หมู่บ้าน คือบ้านสักง่า บ้านอุ่มกะทาด บ้านวังก้นหวด บ้านหินโง่น บ้านห้วยผักกูด และบ้านกลาง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำป่าสัก โดยชาวบ้านเล่าว่า ในปี 2548 ได้เกิดอุทกภัยดินโคลนถล่มจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและสร้างความตกใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ผู้นำชุมชนต้นน้ำทั้ง 6 หมู่บ้านจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของต้นน้ำ จึงรวมตัวกันเป็นเครือข่าย ใช้ชื่อว่า เครือข่ายรักษ์ต้นน้ำป่าสัก เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์และเห็นคุณค่าของทรัพยากรน้ำ โดยได้จัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ชาวบ้านทั้ง 6 หมู่บ้าน โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ

นายศิลา ม่วงงาม ปราชญ์ชาวบ้าน กล่าวว่า พิธีสืบชะตาแม่น้ำเป็นพิธีกรรม ที่นำความเชื่อทางพระพุทธศาสนา มาประยุกต์กับภูมิปัญญาท้องถิ่นพื้นเมือง เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้ตระหนักถึงคุณค่าของแม่น้ำและลำธาร รวมทั้งหาแนวทางฟื้นฟูระบบนิเวศลำน้ำ ที่สูญเสียไปให้ฟื้นคืนสู่สภาพสมดุล ที่สำคัญก่อให้เกิดความร่วมมือ ความสามัคคีและช่วยเหลือเกื้อกูลกันภายในชุมชน นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมให้ชาวบ้าน น้อมนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงและการดูแลรักษาธรรมชาติ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาเป็นปลูกพืชผสมผสานทำให้ในปัจจุบันนี้สภาพป่าในพื้นที่ตำบลศิลาที่เคยเป็นภูเขาหัวโล้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว ธรรมชาติเริ่มกลับคืนสู่สภาพ น้ำในแม่น้ำป่าสักมีเกือบตลอดทั้งปี สร้างความอุดมสมบูรณ์ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น