การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้ยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ จาก “เมืองต้องห้าม…พลาด”มาสู่ “เมืองต้องห้าม…พลาด Plus” รับรองว่าเมื่อคุณได้ไปสัมผัส คุณจะหลงรักเพชรบูรณ์ และอยากกลับไปเที่ยวอีกครั้งแน่นอน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย จะเดินทางสายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) ก็สะดวกสบายโดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวชมและสัมผัสทะเลหมอกที่อำเภอเขาค้อ หรือชมดาวบนดินรับความหนาวเย็นที่ภูทับเบิก ส่วนที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจ นั่นหมายถึง “หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” ที่ทำการปรับปรุงศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ (หลังเก่า)ให้เป็นหอโบราณคดีที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีของจังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับนาม “อินทราชัย” นั้น อัญเชิญมาจากชื่อกรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ซึ่งเป็นพระราชโอรสอันดับที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นัยสำคัญของการอัญเชิญพระนามนี้มาเผยแพร่เพื่อให้คนเพชรบูรณ์ได้เรียนรู้และตระหนักว่า เพชรบูรณ์ของเราก็เป็นหัวเมืองสำคัญมาแต่ในอดีต ถึงขนาดมีพระราชโอรสมาทรงกรม เป็นกรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย
ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ฟังชื่อเหมือนจะเก่าแต่ไม่เก่าอย่างที่คิดการออกแบบห้องนิทรรศการภายในของสถานที่แห่งนี้จัดทำขึ้นอย่างทันสมัย แต่ซ่อนความพิเศษไว้ให้ผู้ชมได้ตื่นเต้นไปตลอดการรับชม ด้วยกลวิธีในการสื่อสารที่ไม่ซับซ้อน มีความกระชับ และใช้ภาพประกอบที่แทบไม่ต้องใช้ตัวอักษรอธิบาย ผู้ชมก็สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการสื่อสารได้ทันที ซึ่งช่วยกระตุ้นการรับรู้ได้มากกว่าการเข้ามายืนอ่านบอร์ดนิทรรศการที่เป็นตัวอักษรทั่วๆ ไปอย่างมาก การเปลี่ยนวิธีการสื่อสารที่ตอบโจทย์คนยุคดิจิทัล 4.0 ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยมาย่นระยะเวลาในการรับสารของผู้ชม ด้วยการเชิญนักออกแบบมาถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้ชมรับชมและรับฟังด้วยตนเองผ่านทางระบบจอสัมผัส ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจไม่รู้ลืม
“หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” ผ่านการสืบค้นข้อมูลที่มีอยู่จริงพัฒนา และผสมผสานด้านศิลปวัฒนธรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนตกผลึกเป็นสถานที่รวบรวมทางประวัติศาสตร์ที่มีสีสันหลากหลาย งดงาม อีกทั้งยังคงความเป็นเอกลักษณ์ดุจอัญมณี มีค่าหลากสีที่ผ่านการเจียระไน จนพราวแสงเปล่งประกายงามเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเพชรบูรณ์ เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้าไปยังอาคารหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย สิ่งแรกที่พบเจอบนอาคาร คือ โถงต้อนรับผู้มาเยือน คอยให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ หลังจากนี้จะพาชมห้องแรก คือ “ห้องโรงหนังไทยเพ็ชรบูล” ตั้งชื่อตามโรงหนังแห่งแรกของเมืองเพชรบูรณ์ ได้จัดฉายหนังเรื่อง “ความไข้ที่เมืองเพชรบูรณ์” ภายในห้องนั้นได้จำลองบรรยากาศที่นั่ง และบริเวณหน้าโรงหนังไทยเพ็ชรบูล ซึ่งจะมีของต่างๆ มาขาย เช่น อ้อยควั่น น้ำแข็งกด ข้าวโปง ข้าวโพดคั่ว เป็นต้น
“ห้องจากเขาคณาถึงศรีเทพ” ห้องที่จัดแสดงเรื่องราวในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคทวารวดี มาจนถึงยุคขอม การจำลองวิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ การจัดแสดงแหล่งโบราณคดีต่างๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ขุดพบตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ การจำลองธรรมจักรโบราณ แอนิเมชั่นการสร้างเขาคลังนอก ศาสนสถานศิลปะพุทธทวารวดีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ และ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเล่าเรื่องราวของเขาถมอรัตน์
“ห้องวัดมหาธาตุ” จัดแสดงเรื่องราวของวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จัดแสดงกรุพระเครื่องสำคัญของเพชรบูรณ์ที่ขุดพบเมื่อปี พ.ศ.2510 ตลอดจนมีการจำลองลานประหารนักโทษสำคัญทางการเมือง มุมจัดแสดงจารึกลานทองทั้ง 3 แผ่น ซึ่งขุดพบในเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ในวัดมหาธาตุ
“ห้องครัวเพชรบูรณ์” เป็นห้องที่ว่าด้วยอาหารการกินต่างๆ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการกิน และอาหาร 7 เมนู ที่ต้องชิม เช่น ซุปใบซ้าโก แกงบอนเมี่ยงค้น น้ำพริกขี้ปู อองปูปิ้ง แกงผักดีกั้ง รวมทั้งขนมพื้นบ้านที่หารับประทานได้ยากยิ่ง นำเสนอด้วยสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย ชั้นที่ 1 ผ่านไป ยังมีชั้น 2ที่รับรองไม่ผิดหวัง จะทำให้นักท่องเที่ยวหลงมนต์ตราเพชรบูรณ์ และเข้าใจ รู้จัก รักเพชรบูรณ์ มากขึ้น “ห้องสมบัติเพชรบูรณ์” จัดแสดงโบราณวัตถุและสิ่งของที่มีค่าทางโบราณคดีของจังหวัดเพชรบูรณ์ อาทิ ข้าวสารดำ ชิ้นส่วนเทวรูป เรื่องราวตำราพิชัยสงครามของเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นตำราที่ใช้ในการรบการจัดตั้งทัพ การดูฤกษ์ผานาที มีหน้าปกเป็นรูปสุนัข (สุนัขนาม) ซึ่งเป็นโฉลกของแม่ทัพของเพชรบูรณ์ (พระยาเพชรรัตน์สงคราม) ในสงครามญวน ซึ่งตำราพิชัยสงครามของจังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกว่า “ฉบับพรหมบุญ” มีทั้งหมด 37 พยุหะ และ 21 กลศึก “ห้องจากมณฑลสู่นครบาล” จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของมณฑลเพชรบูรณ์ และเรื่องราวต่างๆ เมื่อครั้งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2486-2487
โดยใช้ชื่อว่า “นครบาลเพชรบูรณ์” “ห้องเสาหลักเมืองทั้ง 2 แห่ง”แห่งแรก คือ เสาหลักเมืองโบราณที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ ส่วนเสาหลักเมืองแห่งที่สอง คือ เสาหลักเมืองหลวง ซึ่งจำลองมาจากเสาหลักเมืองหลวงที่ตำบลบุ่งน้ำเต้า เป็นเสาหลักเมืองที่บ่งบอกว่าครั้งหนึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
ดร.เสกสรรกล่าวต่ออีกว่า หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ได้จัด“ห้องเพชรบูรณ์เมื่อวันวาน” จัดแสดงเกี่ยวกับตลาดเก่า ร้านค้าเก่าแก่ ร้านค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 80 ปีที่แล้ว โดยในปัจจุบันร้านค้าเหล่านี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ด้วย พร้อมได้จำลองวงเวียนน้ำพุ และหอนาฬิกาเมืองเพชรบูรณ์แบบดั้งเดิม มีรถบรรทุกขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างเพชรบูรณ์-หล่มสัก “ห้องตำนานเมืองเพชรบูรณ์” จัดแสดงเรื่องราวของตำนานจากที่ต่างๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ รวบรวมมาจากทุกพื้นที่ทั้งหมด 9 เรื่อง อาทิ ตำนานเมืองเล็ง, ตำนานวัดโพธิ์เจดีย์ลอย, ตำนานถ้ำใหญ่น้ำหนาว, ตำนานพระนางสิงขรเทวี, ตำนานวัดหินกลิ้ง ฯลฯ
“หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” เป็นศูนย์บริการการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งให้บริการแนะนำแหล่งท่องเที่ยว แหล่งที่พัก และร้านอาหาร บริการไกด์นำเที่ยวพร้อมรถนำเที่ยวรอบเมืองเพชรบูรณ์ ในแคมเปญ 14 จุดสุดประทับใจ เที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ติดต่อสอบถามนำเที่ยวได้ที่ 0-5672-1523
ณัฏยา หารบุตร
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook