เพชรบูรณ์ เปิดถนนตามผังเมืองรวม เมืองเพชรบูรณ์ สาย ค. 1

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2561/05/31/Mobile/VNOHT610531001015101_31052018_020143.mp4″ poster=”http://122.155.92.12/centerapp/Common/GetFile.aspx?FileUrl=~/Uploads/Image/2561/05/31/PNOHT610531001015101_31052018_020146.jpg” width=”530″ height=”315″]

ที่บริเวณถนนสาย ค.1 (ถนนข้างศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์) นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิด ถนนตามผังเมืองรวม เมืองเพชรบูรณ์ สาย ค. 1 เชื่อมต่อระหว่าง ถนนสาย 21 และทางหลวงชนบทสาย 2015 โดยมี นายพรเทพ ศรีวรานันท์ โยธาธการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางอังคณา หัตถกหิจโกศล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวรพจน์ แววสิงห์งาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน เข้าร่วม

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ถนนตามผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ สาย ค. 1 ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2552 แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 ระยะ โดยระยะที่สามเป็นระยะที่สำคัญที่จะทำให้ถนนสายนี้เสร็จสมบูรณ์ได้ มีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันบริจาคเงิน 1,500,000 บาท ในการบริหารจัดการที่ดินเพื่อก่อสร้าง จึงนับได้ว่าถนนสายนี้เป็นถนนที่เกิดจากน้ำใจไมตรีของชาวเพชรบูรณ์อย่างแท้จริง โดยถนนสายนี้เป็นถนนที่ตัดผ่านบริเวณด้านข้างศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เชื่อมต่อถนนสาย 21 และทางหลวงชนบทสาย 2015 เป็นถนนที่เกิดประโยชน์กับชุมชน ประชาชน ที่ใช้สัญจรไปมาอย่างแท้จริง เพราะสามารถย่นระยะเวลาการเดินทาง ตลอดจนสร้างความปลอดภัยกับประชาชน นักเรียน ที่ไม่ต้องไปกลับรถที่ถนนใหญ่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ด้านนายพรเทพ ศรีวรานันท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ถนนตามผังเมืองรวม เมืองเพชรบูรณ์ สาย ค.1 เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กความกว้างผิวจราจร 16 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อถนนสาย 21 บริเวณข้างศูนย์ราชการ และถนนหลวงชนบทสาย 2015 ความยาวรวม 1,772.5 เมตร แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 ระยะระยะที่ 1 ความยาว 260 เมตร ก่อสร้างในปี พ.ศ 2552 ระยะที่ 2 ความยาว 1 458.5 เมตร ก่อสร้างในปี พ.ศ 2555 ถึง 2558 และระยะที่ 3 ความยาว 54 เมตร เริ่มก่อสร้างในวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 เป็นระยะสุดท้ายที่มีความสำคัญ ทำให้โครงการทั้งหมดสมบูรณ์ โดยได้ทุกภาคส่วน ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ ในการบริหารจัดการที่ดินเพื่อก่อสร้าง และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นเงินค่าก่อสร้าง 1,794,000 บาท