จังหวัดเพชรบูรณ์หาทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันเทศญี่ปุ่นหลังถูกบริษัทที่ขายยอดพันธุ์ไม่จ่ายเงินตามสัญญาเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2561/06/06/Mobile/VNOHT610606001030701_06062018_060721.mp4″ poster=”http://122.155.92.12/centerapp/Common/GetFile.aspx?FileUrl=~/Uploads/Image/2561/06/06/PNOHT610606001030701_06062018_060721.jpg” width=”530″ height=”315″]

ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ นางพรทิพา แก้วชนะ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานประชุมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันเทศญี่ปุ่น หลังเกษตรกรชาวเพชรบูรณ์ 20 ราย ถูกบริษัท พี พี. เท็น กรุ๊ป จำกัด ชักชวนให้เข้าร่วมโครงการปลูกมันเทศญี่ปุ่นเพื่อขายยอดพันธุ์ โดยบริษัททำการขายต้นพันธุ์ให้เกษตรกรไปปลูก และจะรับซื้อคืน แต่ภายหลังจากเกษตรกรตัดยอดพันธุ์ให้บริษัทแล้ว กลับไม่จ่ายเงินตามสัญญา มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

นางพรทิพา แก้วชนะ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับหนังสือร้องเรียนจากเกษตรกร ผู้ปลูกมันเทศญี่ปุ่น ว่า บริษัท พี พี. เท็น กรุ๊ป จำกัด ได้เชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการปลูกมันเทศญี่ปุ่น เพื่อขายยอด โดยกำหนดต้องซื้อยอดพันธุ์จากบริษัทในราคายอดละ 10 – 14 บาท และจะรับซื้อคืนยอดพันธุ์จากเกษตรกรทุกยอด และจ่ายเป็นเงินสดในราคายอดละ 3 – 4 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดเก็บเกี่ยวผลผลิต ทางบริษัทได้นำผลผลิตไป แต่ไม่ได้จ่ายผลตอบแทนตามที่ตกลง ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาข้างต้นได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า บริษัท พี พี. เท็น กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทที่ไม่ได้จดแจ้งประกอบธุรกิจระบบเกษตรพันธะสัญญา โดยตอนนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ย และพบว่าเกษตรกรมีการทำข้อตกลงกับบริษัท และเกษตรกรได้แจ้งความแล้ว ซึ่งเกษตรกรบางคนก็มีหลักฐาน บางคนก็ไม่มีหลักฐาน ขั้นตอนต่อไปก็จะทำรายงานเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด และขอเจรจาไกล่เกลี่ย ทั้งสามฝ่าย ทั้ง ผู้ร้อง บริษัท และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหาข้อตกลงในการช่วยเหลือ

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า อยากให้เกษตรกรก่อนที่จะทำสัญญาข้อตกลงอะไร ทางด้านเกษตร เกษตรพันธะสัญญา ควรจะเชิญเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาจจะเป็นเกษตรตำบล หรือเกษตรอำเภอ เพื่อดูข้อสัญญาว่าสมบูรณ์หรือไม่ และอีกกรณีตอนนี้ที่มีข่าว ในเรื่องของการเชิญชวนให้ลงทุน มีการให้กู้เงิน วงเงิน หนึ่งล้าน ถึงสิบล้านบาท อยากให้เกษตรกรพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนเข้าโครงการอะไร ควรตรวจเอกสาร หลักฐาน ข้อตกลง สัญญาให้ชัดเจน และถ้ามีเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปคอยสังเกตการณ์ได้จะยิ่งดี