ตำรวจเพชรบูรณ์ รวบหนุ่มขี้ยาหลาน รอง ผบช.ภ.5 ลงมือฆ่าโหดยายหลานดับ 2 ศพ ชิงทอง 1 บาท รับสารภาพเมายาบ้าหนักมาก ตร.ไม่ยอมพาตัวไปทำแผนหวั่นชาวบ้านกว่า 200 คนรุมประชาทัณฑ์…
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.สมพร ทองรอด รอง ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ดร.เพทาย ทัพมงคล รรท.ผกก.สภ.หล่มสัก พ.ต.ต.อนุรุท มูลนิล สว.สส.สภ.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แถลงข่าวจับกุมนายวัชรพล สีมา หรือโฟร์ อายุ 20 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาใช้มีดชิงทรัพย์ฆ่านางสนม เกษร อายุ 56 ปี และเด็กชายอรรถโกวิทย์ มณฑาจันทร์ อายุ 11 ปี สองยายหลาน ที่บ้านเลขที่ 73/2 หมู่ 3 หน้าวัดอินทร์เตชะสว่างวราราม ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา
ผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ภูธร จว.เพชรบูรณ์ ชุดสืบสวน สภ.หล่มสัก ร่วมลงพื้นที่หาข่าวร่วมกับชุดสืบสวนภาค 6 ลงพื้นที่แกะรอยหาข่าวและนำตัวผู้ต้องสงสัยกว่า 20 คนมาสอบสวน แต่ก็ยังไม่พบเบาะแส กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 30 ที่ผ่านมาชุดสืบสวนได้พบเบาะแสเป็นภาพผู้ต้องสงสัยในช่วงเวลาเกิดเหตุจากร้านค้าสองแห่งบริเวณใกล้เคียงขณะที่นายโฟร์กำลังขี่จักรยานใส่หมวกผ่านมา จึงแกะรอยจนทราบว่านายโฟร์ซึ่งไม่มีอาชีพอะไรได้ไปแวะบ้านเพื่อนรุ่นพี่ชื่อนายช้าง อาชีพรับจ้างที่ตลาดผักจากนั้นจึงได้เสพยาบ้าด้วยกันที่บ้านของนายช้างในช่วงค่ำวันที่ 24 กระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 25 ได้ขอยืมรถจักรยานพร้อมไขควงของนายช้าง และบอกว่าจะไปซ่อมรถจักรยานยนต์ของตนเองที่เสีย
จากนั้นจึงปั่นจักรยานผ่านมาที่บ้านนางสนม และสังเกตเห็นกุญปิดล็อกจากประตูรั้วหน้าบ้านของผู้ตาย จึงคิดว่าไม่มีคนอยู่จึงได้ปีนข้ามรั้วเข้ามานอนเล่นที่เปลใต้ถุนบ้าน โดยบ้านหลังดังกล่าวนี้เป็นบ้านที่นายโฟร์เคยมานั่งเล่นหลายครั้ง เพราะเป็นเพื่อนกับนายต๊ะซึ่งเป็นหลานของนางสนมผู้ตายอีกด้วย สักพักจึงเดินขึ้นไปบนบ้านใช้ไขควงงัดมีเนียมขอบกระจก และถอดกระจกข้างประตูหน้าบ้าน ก่อนมุดเข้าไปในบ้านเพื่อค้นหาทรัพย์สิน ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่นางสนมตื่นขึ้นมาเปิดไฟพอดิบพอดี นางสนมจึงตะโกนถามว่าเข้ามาทำไม นายโฟร์จึงกระโดดเข้าไปใช้มือปิดปากนางสนมเอาไว้ แต่ก็ถูกนางสนมกัดมือจนเป็นรอยแผลที่ในฝ่ามือ
เป็นจังหวะเดียวกันที่เด็กชายอรรถโกวิทย์ได้ยินเสียงดังจึงตื่น และวิ่งไปนำมีดมาถือไว้ในมือสองข้างพร้อมยกเก้าอี้พลาสติกฟาดใส่นายโฟร์ ทำให้นายโฟร์หันไปยื้อแย่งมีดจากเด็กชายอรรถโกวิทย์พร้อมกับฟันไปตามร่างกายหลายแผล ก่อนจ้วงแทงจุดตายบริเวณลิ้นปี่ของเด็กชายอรรถโกวิทย์ ก่อนหงายหลังล้มตึงทันที ส่วนนางสนมที่พยายามดึงผมนายโฟร์ไว้ไม่ให้ทำร้ายหลานชายตัวเองเห็นเด็กชายอรรถโกวิทย์หลานชายถูกแทงล้มแล้วจึงพยายามวิ่งหนีไปเปิดประตูทางหน้าบ้าน แต่ก็ไม่ทัน ถูกนายโฟร์จ้วงแทงที่ต้นขาขวาเหวอะ ก่อนดึงกลับมาในบ้าน และล้มลงและถูกจ้วงกระหน่ำแทงพรุนกว่า 40 แผลดับอนาถ
หลังเกิดเหตุนายโฟร์ได้คว้าสร้อยคอของผู้ตาย และโทรศัพท์ของเด็กชายอรรถโกวิทย์ติดมือไปด้วย ก่อนกระโดดหนีไปทางหน้าต่างหลังบ้าน แล้วขี่จักรยานหลบหนีอ้อมไปทางวัดอินทร์เตชะสว่างวราราม แล้วพยายามข้ามคลองแต่น้ำเชี่ยว และทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบสวนจึงให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะเมายาบ้าขนาดหนัก
ขณะเดียวกันพบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ก่อนที่ญาติจะเคลื่อนศพของสองยายหลานไปเผาที่วัดนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับแม่บ้านทำความสะอาดโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุคือ มีหญิงสาวอายุราว 30 ปีมีอาการคล้ายผีนางสนมเข้าสิงร้องไห้โวยวายขอโทษเพื่อนบ้านและกล่าวถึงคนร้ายเป็นเด็กผู้ชายที่มาฆ่าตนเอง จึงมีผู้นำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกไว้ตอนท้ายๆ ได้ว่า “ข้อยขอโทษข้อยเคยว่าให้เจ้าข้อยขอโทษ“ จึงมีคนถามว่าเป็นใคร หญิงคนนั้นจึงมีเสียงร้องไห้ตอบไปว่า “ก็ผู้ได๋ละนี่ที่ตายบ่ดิบบ่ดี” “ข้อยเจ็บข้อยปวด เด็กน้อยผู้ชายมาเว้าหยอกเขาอยู่” สักพักจึงมีคนนำเครื่องรางของขลังมาใส่ให้จึงทำให้หญิงคนดังกล่าวสงบ และพูดว่าไม่รู้สึกตัวเองเหมือนกันที่จู่ๆ ก็อยากร้องไห้และเดินเข้ามาในห้องพัก จากนั้นจึงรู้สึกเหมือนหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในห้องนี้แล้ว
[ae-fb-embed url=’https://www.facebook.com/thairath/videos/10157169132282439/’ width=’500′ showtext=’true’]
ทั้งนี้ รายนงานข่าวแจ้งว่า มารดาของนายโฟร์เป็นพี่สาวแท้ๆ ของนายพลตำรวจที่ภาคเหนือ นายโฟร์จึงเป็นหลานชายแท้ๆ เช่นกัน ด้านชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างสาปแช่ง และกล่าวว่าทำไปได้ยังไงเป็นเพื่อนกับหลานนางสนมแท้ๆ อีกทั้งยังเคยแวะมากินข้าวกินน้ำที่บ้านนี้อีกด้วย
หลังแถลงข่าว พ.ต.อ.ดร.เพทาย ทัพมงคล รรท.ผกก.สภ.หล่มสัก ได้มอบเงินจำนวน 1 หมื่นบาทให้ชุดสืบสวน สภ.หล่มสัก ที่สามารถสืบสวนจับกุมคนร้ายได้ภายใน 7 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายโฟร์ผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ทิ้งจักรยาน โดยไม่ได้นำตัวไปทำแผนในวันนี้ เพราะมีชาวบ้านกว่า 200 คนมาประชุมที่วัดอินทร์เตชะสว่างวราราม จึงเกรงว่าหากชาวบ้านรู้จึงอาจมารุมประชาทัณฑ์นายโฟร์ได้ จากนั้นจึงนำตัวไปสอบสวนแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
[ae-fb-embed url=’https://www.facebook.com/100011154369942/videos/623560681359072/’ width=’500′ showtext=’true’]
ขอขอบคุณที่มาข่าว อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1345087
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook