[ae-fb-embed url=’https://www.facebook.com/newsthaich8/videos/1838991702815746/?t=1′ width=’500′]
นายวรพจน์ แววสิงห์งาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำคณะผู้เชี่ยวชาญด้านธรณี จากกรมทรัพยากรณี เข้าตรวจสอบถนนสายโจ๊ะโหวะ-ภูหินร่องกล้า ช่วงกม.9 300-10 650 หลังจากถนนช่วงดังกล่าวเกิดการทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบแผนของกรมทาง เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยาวต่อไป
นายนิวัติ บุญนพ ผู้อำนวยการสำนักงานธรณีวิทยาเขต 1 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ดินบริเวณจุดเคลื่อนตัวเป็นดินหิน อยู่ในตระกูล “หินภูกระดึง” ซึ่งประกอบด้วย หิน ดินทราย ดินร่วนปนเหนียว ในลักษณะผสมโคลน ค่อนข้างเยอะ ซึ่งไม่ค่อยอุ้มน้ำมากนัก ถ้าเกิดการสะสมน้ำมาก อาจเกิดการเคลื่อนตัวเร็วขึ้น โดยเบื้องต้นได้ให้คำแนะนำทางแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ ให้เปิดช่องทางระบายน้ำให้ได้มากที่สุด ส่วนระยะยาวนั้นทางนักธรณีวิทยาจะศึกษาอย่างละเอียด ถึงชั้นหิน ดิน และประวัติการเกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบกับข้อมูลกรมทาง เพื่อแก้ไขในระยะยาวที่ได้มาตรฐานต่อไป
ขณะที่นายใจ แซ่เถา ผู้ใหญ่บ้านทับเบิก กล่าวว่า สาเหตุที่ถนนบริเวณดังกล่าวเกิดการทรุดตัว เนื่องจากการสร้างถนนไปทับถมคลองเดิม ชาวบ้านเรียกคลองนี้ว่า คลองขี้แลน และเปลี่ยนมาเป็นคลองน้ำเพียงดิน หลังจากมีการสร้างถนนทับคลอง โดยไม่ได้วางระบบระบายน้ำ ทำให้จุดเหนือถนนดังกล่าว กลายเป็นแอ่งน้ำ เมื่อฝนตกต่อเนื่องหลายวัน จึงเกิดการทรุดและเคลื่อนตัว ซึ่งได้เคลื่อนตัวมาแล้ว 1 ครั้งในปี 2544 ทำให้ถนนขาด จึงเรียกร้องให้การปรับปรุงแก้ไข นำระบบระบายน้ำมาพิจารณาด้วย
ด้านนายวรพจน์ แววสิงห์งาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ระดับจะช้าลง บางจุดเริ่มทรงตัว เนื่องจากไม่มีฝนตกมาเติม อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ประมาทได้สั่งการให้ทางอำเภอ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยล่าสุด ขณะนี้ทางอำเภอหล่มเก่า ได้เตรียมจุดอพยพรองรับประชาชนใน 8 หมู่บ้านเสี่ยงภัย จำนวน 7 จุด ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านโจ๊ะโหวะ,อบต.บ้านเนิน,สำนักสงฆ์โนนพล ,วัดนันทชาติ,สำนักสงฆ์พุทธปฐม,หน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า,ศูนย์พัฒนาราษฏรพื้นที่สูง ซึ่งได้เตรียมกำลังคน ระบบสาธารณูปโภค และซักซ้อมในเบื้องต้นแล้ว พร้อมกันนี้ได้กำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังและให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook