สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.เพชรบูรณ์ ชวนชม บ้านสนสวย ชมทะเลหมอก 360 องศา จากขุนเขาถึงอารามศักดิ์สิทธิ์ เชื่อถ้าได้มาจะต้องชื่นชอบ และไม่ต้องไปไกลถึงภูเขาไฟฟูจิ ยิ่งยามพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า จะปรากฏลำแสงสีทองสาดส่องไปทั่วบริเวณ ส่วนเย็นและค่ำคืนก็พบหมู่ดาวบนท้องฟ้า…
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.61 นายประดิษฐ หลวงจอก พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ที่ จ.เพชบูรณ์ บ้านสนสวย เป็นชื่อหมู่บ้านสุดโรแมนติกที่สื่อถึงทัศนียภาพงดงามของทิวสน ตั้งอยู่ในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตระการตาด้วยจุดชมวิวทะเลหมอก 360 องศา ชวนให้สัมผัสพลังแห่งศรัทธาด้วยวัดวาอารามเก่าแก่ ทั้งยังรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมหลากหลายแขนง ทั้งศิลปะการแสดงตระการตา อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย ไปจนถึงเครื่องประดับสีสันสดใสสไตล์ชาวเขาที่ถูกนำมาดีไซน์ให้ร่วมสมัย สามารถชมสายหมอก หยอกคนข้างๆ ที่เขาตะเคียนโง๊ะ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวระดับท็อปของเพชรบูรณ์ที่ได้รับการกล่าวขานว่างดงามเกินถ้อยคำบรรยาย ทั้งยังมีมุมคล้ายภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่น โดยสามารถเดินชมทะเลหมอกในยามเช้าตรู่ได้ 360 องศา ในเวลาพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ปรากฏลำแสงสีทองสาดส่องไปทั่วบริเวณ ตกเย็นและค่ำคืนก็แสนโรแมนติกด้วยหมู่ดาวบนท้องฟ้าที่เหมือนอยู่ใกล้ราวเอื้อมถึง
นอกจากนี้ยังมีโชว์กลองยาว เล่นสะบ้า เสียงดนตรีเป็นอีกหนึ่งสีสันของบ้านสนสวย ที่นี่มีวงกลองยาวที่แสดงโดยเด็กๆในท้องถิ่นราว 30 ชีวิตที่รวมตัวกันสร้างสรรค์เสียงดนตรีเพื่อต้อนรับขับสู้ผู้เดินทางมาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านพร้อมวาดลีลาท่วงท่าร่ายรำไปตามจังหวะกลอง นอกจากนี้ ยังมีการละเล่นโบราณอย่าง “สะบ้า” ที่หาดูได้ยาก อย่าลืมจับจ้องตั้งแต่การตั้งลูก ยิงลูก โดยเฉพาะลีลาการใช้ตาตุ่มและหลังเท้าหนีบและประคองลูกสะบ้าซึ่งต้องใช้ทักษะอย่างหาตัวจับยาก
“แหล่งแฟชั่นบ้านสนสวย มีจุดเช็คอินที่สาวๆไม่ควรพลาด นั่นคือแหล่งผลิตต่างหูหลากสีสันที่ดัดแปลงจากผ้าปักและเครื่องแต่งกายสไตล์ชาวเขาอันเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพโยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานหลายพื้นที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้ายญี่ปุ่นสีสวย ถูกนำมาร้อยเข้ากับผ้าปักม้งหลากลวดลาย สร้างสรรค์เป็นต่างหูคู่สวยที่แมตช์กับเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องปักหมุดห้ามพลาด บ้านสนสวยยังเต็มไปด้วยสวนผลไม้นานาชนิด ที่ปลูกแบบไร้สารพิษ เป็นมิตรต่อสุขภาพ การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนอันเรียบง่าย พร้อมภูมิปัญญาชาวบ้านที่สั่งสม สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ทำให้เราไม่ลืมรากเหง้า ที่สำคัญทำให้ได้รู้ว่า เมืองไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนอีกมากมายที่พร้อมให้ไปสัมผัส เรียนรู้ เพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนจะได้อยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป”นายประดิษฐกล่าว.
ที่มาไทยรัฐออนไลน์’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook