สองหนุ่มที่เพชรบูรณ์ หากินทางเป็นโจร รับออเดอร์อดีต ส.ท.ตระเวนลักทรัพย์ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือการเกษตรมาขาย เจอมาม่า ปลากระป๋อง ก็คว้าติดมือมาด้วย ตำรวจชี้เป็นการ “ซ้ำเติมคนจน”
วันที่ 9 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว นายพิสิทธิ์ มะลิกำ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 7 ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย และนายพิเชษฐ จันทร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 4 ต.วัดป่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีเขียว ทะเบียน กพธ 999 เพชรบูรณ์ ปั๊มน้ำไฟฟ้า 1 เครื่อง ปั๊มกระแทกพร้อมมอเตอร์ 1 ชุด ปั๊มสูบน้ำมอเตอร์ไดนาโม 3 เครื่อง ถังแก๊สหุงต้ม จำนวน 2 ถัง สายไฟฟ้า 1 ขด และเครื่องมือช่างที่ใช้ในการลักขโมย
สอบสวน นายพิสิทธิ์ และนายพิเชษฐ ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ พร้อมซัดทอดว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการออกตระเวนลักทรัพย์และรถจักรยานยนต์ของกลางนั้นเป็นของ นายสถิต ไตรรักษ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202/2 ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก อดีตสมาชิกสภาเทศบาลแห่งหนึ่ง ที่จะให้ยืมไปใช้ในการตระเวนลักทรัพย์ โดย นายสถิต ได้จ้างให้พวกตนเองทั้งสองคนทำรั้วบ้าน และยังได้พักอาศัยอยู่บ้านของนายสถิต ที่ทำเป็นที่พักโฮมสเตย์อีกด้วย
“จะออกตระเวนลักขโมยทรัพย์สินต่างๆ ตามออเดอร์สั่งของนายสถิต และนำมาขายให้นายสถิต โดยปั๊มน้ำจะนำมาขายในราคาตัวละ 700-1,000 บาท” สองโจรกล่าว และรับสารภาพอีกว่า ทำความผิดลักษณะเดียวกันนี้มา 2 ครั้งแล้ว กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.นิคม พรมพิราม ผกก.สภ.หล่มสัก กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนนี้เคยติดคุกในคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์และรับซื้อของโจรเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน โดยทั้งสองมีความสนิทสนมกันตั้งแต่อยู่ในคุก เมื่อพ้นโทษออกมาจึงมาเจอกันและร่วมลงมือตระเวนลักทรัพย์ด้วยกัน
ส่วน นายสถิต อดีต ส.ท.นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร เพราะของกลางที่พบถูกซุกซ่อนอยู่ในบ้านของนายสถิตนอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองยังยอมรับสารภาพอีกว่า เมื่อเข้าไปในบ้านของเหยื่อแล้วจะลักขโมยทุกอย่างทั้งมาม่า ปลากระป๋อง น้ำมันพืช หัวหอม กระเทียม น้ำปลา ติดมือมาด้วย ซึ่งเป็นขโมยที่ซ้ำเติมคนจนที่ลำบากอยู่แล้วให้ลำบากยิ่งไปอีก จึงฝากเตือนประชาชนด้วยว่า ฤดูกาลนี้เป็นช่วงฤดูทำนาจึงมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้เข้านา จึงขอให้เพิ่มเติมความระมัดระวังทรัพย์สินให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินสูญหาย ซึ่งตนเองในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีหน้าที่ดูแลความสงบสุขของประชาชน ก็ไม่ได้มองข้ามทุกปัญหา สั่งการเร่งรัดให้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง
ขอขอบคุณที่มาข่าวไทยรัฐออนไลน์’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook