LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันพฤหัสที่ 19 ธันวาคม 2024
คอลัมน์วันนี้

ธรณีมหัศจรรย์…แคนยอนน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

ธรณีมหัศจรรย์…แคนยอนน้ำหนาว

DCIM\100GOPRO\GOPR0107.JPG

จังหวัดเพชรบูรณ์  เริ่มแรกเขาประกาศให้พื้นที่ทั้งเขาจังหวัด เป็นอุทยานธรณีเพชรบูรณ์   ซึ่งเริ่มแรกนั้นเขาเลือกสถานที่ที่มีความโดดเด่นทางธรณี 22 แห่ง เป็นตัวชูโรง   ในการเปิดตัวให้เป็นอุทยานธรณีระดับจังหวัด (  การจะเป็นอุทยานธรณี จะมีอยู่ 4 ระดับ คือ ระดับท้องถิ่น  ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และระดับโลก ที่เราเข้าใจกันว่าเป็นมรดกโลกทางธรณีนั่นเอง ซึ่งยูเนสโกจะเป็นคนรับรอง)   ซึ่งในการเสนอตัวขึ้นมาระดับประเทศและไประดับโลกจะมีแหล่งเพิ่มขึ้นมา ครอบคลุมทั้งวิถีชีวิต วัฒนธรรม   แต่ต่อมาเห็นว่าพื้นที่ทั้งจังหวัดนั้น ใหญ่เกินไป  บริหารจัดการไม่ได้ เขาเลยให้เหลือแค่ 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.หล่มสักและ อ.น้ำหนาว    เนื้อที่ 4,430 ตร.กม. ซึ่งเงื่อนไขของอุทยานธรณีนั้นเขาจะต้องให้ชุมชนมาเกี่ยวข้องด้วยหรือชุมชนในพื้นที่ได้ประโยชน์ด้วย แล้วเขาอาจจะประกาศทับพื้นที่อุทยานแห่งชาติด้วย  ประกาศทับอำเภอ   บ้านเรือน  ที่ดินทำกินของชาวบ้านก็ได้ แต่อย่าไปสนใจ เพราะเขาจะไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องการจัดการ เขาจะเน้นไปในเชิงให้ความรู้และประชาสัมพันธ์มากกว่า    ในส่วนของอุทยานธรณีเพชรบูรณ์ที่ผมว่านี้แม้จะเหลือแค่ 3 อำเภอ  แต่เขาก็ยังมีหลายแหล่ง แต่ที่น่าสนใจและอยากนำมาเล่าก็คือที่ที่เขาเรียกว่า  แคนยอนน้ำหนาว

DCIM\100GOPRO\GOPR0130.JPG

ว่าด้วยเรื่องการเดินทางก่อน คือเมื่อเราเดินทางมาจากสามแยกคอนสาร(ที่จะไปเมืองเลยไปผานกเค้านั่นเอง) มาตามถนนหมายเลข 12   มุ่งหน้าไปหล่มสัก   จนมาถึงสามแยกบ้านห้วยสนมทราย   จะมีทางแยกขวามือเข้าไปตามถนนหมายเลข 2216 ไปยัง อ.น้ำหนาว  พอขึ้นเนินเขาไปก็จะเจอชุมชนแรกคือบ้านโคกมน จะเห็นวัดโคกมน  อยู่ทางขวามือ    ให้เข้าไปในวัด แล้วขับเลยพระอุโบสถเข้าไปตามทางไปหลังวัด   ราว 500 เมตรจนถึงลานจอดรถ ใกล้บริเวณน้ำตก นาคราชตาดหมอก   หรือที่ถูกขนานนามว่าเป็นแคนยอนน้ำหนาว  โดยเขาให้นิยามบริเวณนี้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ของเปลือกโลก

cof

บริเวณของแคนยอนน้ำหนาว จะเป็นเวิ้งหน้าผาหินชั้น   กว้างแทบจะเป็นครึ่งวงกลมขนาดใหญ่    มีหุบเหวข้างล่างสูงกว่า 300 เมตร   หินที่ประกอบเป็นหน้าผา มีทั้งหินปูน  หินทราย และหินดินดาน ซึ่งล้วนเป็นหินตะกอน(หรือหินชั้น) ทั้งสิ้น  นี่คือแผ่นดินที่ถูกยกตัวสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก

ถ้าเรามาจากชุมแพมุ่งหน้าขึ้นน้ำหนาวจะไปหล่มสักตามถนนหมายเลข 12 มุ่ง  ท่านผู้อ่านสังเกตดูว่าทางมันจะขึ้นเนินไปเรื่อยๆ  แล้วก็จะไปสุดเป็นเหวลึกที่สะพานห้วยตอง   ที่เขาบอกว่าตรงนั้นเป็นสุดปลายแผ่นเปลือกโลก     เพราะจริงๆแล้ว แผ่นดินน้ำหนาวมันเป็นแผ่นดินที่ถูกยกตัวสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการเบียด ชนกันของแผ่นเปลือกโลก   พื้นที่ย่านนี้ทั้งหมดเป็นหินตะกอน หรือหินชั้น   อาจจะเคยเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ หรือธารน้ำโบราณ   ที่น้ำพัดพาตะกอนสารต่างๆมาทับถมกันเป็นชั้นๆ จนกระทั่งกลายเป็นหิน เมื่อราว 200 ล้านปีก่อน    เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่เบียด ดันกัน ทำให้พื้นที่เกิดจากการยกตัวขึ้น    ชั้นหินที่เคยทับกันในธารน้ำโบราณ   พอถูกดันให้ยกตัวขึ้น   ก็เกิดการโก่งงอและแตกหักเป็นแนวยาวตามทิศทางการโก่งตัวของชั้นหิน      ต่อมามีการผุพังโดยน้ำ  ลม   แสงแดดจนกลายเป็นหน้าผาในที่สุด

ชั้นของสารต่างๆที่สะสมกันเป็นชั้นๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดข้างหน้าผาน้ำตกตาดหมอกนาคราช

หน้าผาดังกล่าว เกิดจากชั้นหินที่มีความทนทานต่อการผุพังที่แตกต่างกัน    โดยชั้นหินทรายและทรายแป้งจะมีความทนทานจากการผุพังและกัดกร่อนได้ดี จึงยังคงสภาพ    ขณะที่ชั้นหินดินดานที่แทรกสลับอยู่จะเกิดการผุพังและถูกกัดกร่อนได้ง่ายกว่า     ชั้นหินดินดานที่ผุพังและเกิดการกัดกร่อน   จะถูกพัดพาไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกตามกระแสน้ำ ลม  เกิดเป็นช่องว่างเว้าเข้าไปในผาหิน ชั้นหินทรายที่อยู่ด้านบน    แล้วเกิดการแตกหักเนื่องจากน้ำหนักของชั้นหินที่ไร้สิ่งรองรับ ทำให้หน้าผาดังกล่าวขยายกว้างออกไปเรื่อย ๆ แคนยอนน้ำหนาวแห่งนี้    จึงมีลักษณะเป็นเวิ้งหน้าผาสูงชัน  มีความสวยงามคล้าย “แกรนด์แคนยอน” ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกย่อส่วนลงมาเท่านั้น ตรงน้ำตกตาดหมอกนาคราชนี้จะเห็นชั้นหนที่ผมบอกมาให้เห็นชัดเจนว่าหินอะไรซ้อนทับอะไร ในแนวทิศทางไหนจำลองให้เห็นภาพของธรณีสัณฐานของย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

ชั้นของน้ำตกตาดใหญ่ที่เป็นชั้นหินชั้นขนาดใหญ่ ที่เวลาสึกกร่อนก็จะสึกไปเป็นชั้นๆ

ในฤดูฝนจะมีสายน้ำลำธารเล็กๆ ไหลตกลงไปในหุบเวิ้งเบื้องล่าง   อย่างเช่นน้ำตกนาคราชตาดหมอก  สายน้ำตกเล็กๆ   ที่เคยไหลตกลงไปอยู่ชั่วนาตาปี ทำหน้าที่รังสรรค์ธรรมชาติจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีดังกล่าว   สายน้ำเพิ่งจะมาเหือดแห้งเมื่อผืนป่าด้านบนถูกแผ้วถางจนป่าต้นน้ำสูญสิ้นไปพร้อมกับสายน้ำที่เคยตกดิ่ง  จะปรากฏให้เห็นอีกครั้งก็เมื่อเข้ากลางฤดูฝนแล้วเท่านั้น

เวิ้งผาน้ำตกตาดใหญ่ ที่หักตกลงไปด้วยการแตกร้าวจากการถูกบับอีดและน้ำช่วยพังทลาย

          ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออก   ว่าหลุมลึกและหน้าผาของแคนยอนน้ำหนาว เกิดขึ้นได้อย่างไร ให้เลยจากวัดโคกมนออกมาแล้วใช้ถนน หมายเลข 2216 ไปทางน้ำหนาว ราว 300 เมตร จะเห็นแยกทางเข้าบ้านโคกมน-บ้านดงมะไฟ  ทางขวามือ  เข้าไปตามทางจนถึงบ้านดงมะไฟ   แล้วเลยทะลุออกไปท้ายหมู่บ้าน เป็นทางลำลองไปจนถึงริมน้ำตกตาดใหญ่   จอดรถแล้วจึงเดินไปดูคำอธิบายนั้น

เมื่อแผ่นดินยกตัวขึ้น แผ่นเปลือกโลกก็ยังเคลื่อนไหว บีบอัดกันจนแนวหินชั้นโค้งเว้า

น้ำตกตาดใหญ่ เป็นน้ำตกที่จะเห็นสายน้ำที่กัดเซาะภูเขาหินที่ถูกเบียดดันจนเป็นร่องลึกขนาดใหญ่

น้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำตกหินดินดาน  ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของหินตะกอน(เพราะเกิดจากการสะสมทับถมกันของชั้นตะกอนต่างๆ)หรือหินชั้น (เพราะสะสมตัวเป็นชั้นๆ)ที่ซ้อนทับกันเป็นแผ่นๆ   ต่อมาถูกยกตัวขึ้นมาจากการเบียด อัด ชน โดยแผ่นเปลือกโลกทำให้เกิดการคดโค้งและรอยแตกบนพื้นหินเกิดขึ้น  ต่อมาน้ำจึงไหลลงตรงบริเวณนั้น  นานเข้าๆ ก็กัดกร่อนร่องแตกเล็กๆจนเป็นร่องธารกว้างและลึกลงไป    เมื่อลองเดินลงไปตามลานหินในร่องหุบห้วยนั้น ก็จะเห็นว่าหินดินดานที่ซ้อนทับกันเป็นแผ่นๆ ชั้นๆนั้น มรความคดโค้งอย่างเด่นชัด    และเมื่อน้ำไหลไปจนสุดทางที่เป็นหน้าผาสูงชัน ตกลงไปในแนวดิ่งสูงราว 60  เมตรนั้น  จะเห็นบริเวณหน้าผาก็เป็นแนวโค้งเช่นกัน   ร่องธารน้ำที่ไหลลงมานั้นค่อยๆ กัดเซาะหินกร่อนไปทีละน้อยๆ ใช้เวลานับล้านๆ กว่าจะเป็นน้ำตกตาดใหญ่ จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้เช่นนี้

นี่คือบางส่วนของอุทยานธรณีเพชรบูรณ์ ที่อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อนผ่านไปผ่านมาจะได้เข้าไปพิสูจน์ความมหัศจรรย์ทางธรณีของที่นี่ได้ แล้วจะเห็นว่าบ้านเมืองของเรานั้นไม่ธรรมดา….

…………………………………

(ประเทศไทยใจเดียว-เสาร์สวัสดี-กรุงเทพธุรกิจ ๑ ก.พ. ๖๓)

ขอขอบคุณที่มา https://blog.tawanyimchang.com/?p=4763

‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

คอลัมน์วันนี้ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด