ฮือฮา! นักข่าวใหญ่ยื่นหนังสือ รมช.มท. ฝาก ขรก.นั่งรองพ่อเมืองเพชรบูรณ์
วันที่ 8 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดกระแสฮือฮาในแวดวงราชการและชาวเพชรบูรณ์ หลังจากมีสำเนาเอกสารระบุชื่อ “นายศุภผล จริงจิตร” สื่อมวลชนเพชรบูรณ์และเป็นกรรมการองค์กรต่างๆ นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารองค์กรสื่อระดับประเทศแห่งหนึ่ง ได้ทำหนังสือถึงนายนิพนธ์ ปุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 โดยอ้างสถานะสื่อมวลชนและความเป็นคนใต้ด้วยกัน เนื้อหาโดยสรุปว่า ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้จังหวัดเพชรบูรณ์จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์พร้อมรองผู้ว่าฯอีก 2 คนครบวาระเกษียณราชการ ทำให้เหลือเพียงนายนิเวศน์ หาญสมุทร์ รองผู้ว่าฯเพียงคนเดียว จึงเสนอข้าราชการรายหนึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์
ทั้งนี้ในหนังสือสำเนาเอกสารดังกล่าว นายศุภผลยังให้เหตุผลที่ชงข้าราชการรายนี้ด้วยว่า ในฐานะทำหน้าที่สื่อมวลชนและเคยได้ร่วมประชุมหรือร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนตลอดมา เห็นการทำงานของข้าราชการรายนี้มีแต่รอยยิ้มให้แก่ข้าราชการและประชาชน จึงขอฝากรัฐมนตรีฯให้ความอนุเคราะห์ข้าราชการคนนี้ขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ และยังส่ง SMS ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตามล่าสุด หลังจากสำเนาหนังสือดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ตามไลน์กลุ่มต่างๆ ปรากฏว่าได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมต่างๆกันอย่างฮือฮา โดยเฉพาะติงการหน้าที่สื่อมวลชนทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ
นายศุภผล จริงจิตร ได้ให้สัมภาษณ์โดยชี้แจงถึงหนังสือเอกสารดังกล่าว โดยยอมรับว่าตนทำหนังสือดังกล่าวจริง รวมทั้งได้ยื่นให้นายนิพนธ์ขณะลงพื้นที่ติดตามงานที่จ.เพชรบูรณ์อีกด้วย ในฐานะที่เห็นข้าราชการรายนี้เป็นคนทำงานและดูแลประชาชน จึงต้องการสนับสนุนให้คนดีมีโอกาสได้ขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ ที่ผ่านมาทาง มท.แต่งตั้งผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ โดยไม่เคยฟังเสียงชาวเพชรบูรณ์ จนบางครั้งการทำงานไม่เข้าตาชาวเพชรบูรณ์
“ยืนยันว่าไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด ขณะเดียวกันจากการสอบถามความเห็นของข้าราชการและอดีตข้าราชการหลายคน หรือนักการเมือง หลายคนต่างก็เห็นด้วยหรือไม่ขัดหากจะช่วยสนับสนุนข้าราชการคนนี้ ทั้งนี้ในการเสนอชื่อราชการการรายนี้ทางเจ้าตัวไม่ทราบ แต่หลังยื่นยืนหนังสือให้นายนิพนธ์แล้ว จึงได้แจ้งให้ทราบก็ไม่มีทักท้วงอะไร”นายศุภผลกล่าว
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook