กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เจนจิตร เสนานุช ได้ร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์ว่า ถูกเจ้าหน้าปฏิเสธไม่ให้ขึ้นรถ เพื่อเดินทางกลับเพชรบูรณ์ ทั้งที่ซื้อตั๋วโดยสารแล้ว ตามข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้
- บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่า รถโดยสารคันที่ก่อเหตุเป็นรถของบริษัท เพชรประเสริฐทัวร์ จำกัด รถคันหมายเลข ม.4ข/14-79 เส้นทางกรุงเทพฯ-หล่มสัก เที่ยวเวลา 15.45 น. ของวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ได้กระทำการผิดจริง จึงได้ลงโทษปรับตามระเบียบบริษัทฯ ฐานไม่ควบคุมพนักงานรถร่วมฯ ให้ปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดๆ ให้ผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารถูกต้องต้องลงจากรถก่อนถึงจุดหมายปลายทาง รวมเป็นเงิน 2,000 บาท
นอกจากนี้ได้ทำบันทึกว่ากล่าวตักเตือน ให้ผู้ประกอบการลงรายมือรับทราบบทลงโทษและห้ามกระทำการผิดเช่นนี้อีก มิฉะนั้นจะถูกพิจารณาโทษขั้นสูงสุดตามระเบียบของบริษัทฯ ต่อไป
อย่างไรก็ดี บขส. ได้ติดต่อไปยังผู้ร้องเรียน เพื่อแจ้งผลการดำเนินการและบทลงโทษดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และในส่วนผู้ประกอบการ แจ้งว่า ในวันนี้ (24 ธ.ค. 63) จะเดินทางไปพบผู้ร้องเรียน เพื่อขอโทษและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
จากกรณีโลกโซเซียลมีเดียถึงพากันรุมถล่มพนักงานรถทัวร์โดยสาร เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เจนจิตร เสนานุช ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิป โดยระบุพิกัดอยู่ที่ ท่ารถขสมก.(หมอชิต2) ซึ่งเป็นนาทีที่หญิงสาวรายนี้ พูดคุยกับพนักงานประจำรถด้วยเสียงร่ำไห้สะอึกสะเอื้อน บอกพนักงานว่า ไม่ต้องถ่ายค่ะ ไม่ให้หนูไปก็ไม่ต้องถ่าย นี่หรือค่ะคนไทย ทำไมค่ะ(สะอื้น) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สาวป่วย สะอื้นร่ำไห้ เปิดใจ หลังถูกห้ามขึ้น รถทัวร์ กลับบ้านที่หมอชิต อ้าง ผู้โดยสารรังเกียจ
ล่าสุดวันที่ 24 ธ.ค.2563 น.ส.เจนจิตร เสนานุช ชาวอ.หล่มเก่า เจ้าของเฟซบุ๊ก ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัทพ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่า ตนเดินทางมากจาก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2563 เพื่อพบหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพและกำลังจะเดินทางกลับ และซื้อตั๋วรถในเที่ยวเวลา 16.00 น.
น.ส.เจนจิตร กล่าวต่อว่า ระหว่างที่กำลังเข้าคิวเพื่อเดินขึ้นรถ ก็มีการสอบถามว่าป่วยเป็นอะไร ตนตอบว่าเป็นแผลกดทับที่เท้า เดินไม่สะดวก จากนั้น มีการแจ้งให้รอเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก่อนว่าจะขึ้นรถได้ไหม แล้วมีเจ้าหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์มาตรวจและแจ้งให้ไปคืนตั๋วโดยไม่แจ้งเหตุผล
น.ส.เจนจิตร กล่าวอีกว่า แต่ภายหลังได้ยินจากที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทรถทัวร์คุยกันเองว่า ผู้โดยสารที่จะร่วมเดินทางมาด้วยเขารังเกียจ ตนจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและตัดสินใจถ่ายคลิปลงโซเชียล มีเดียตามที่ปรากฏ
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook