จากกรณีที่มีชาย 2 คน มาหัดขับรถในสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านท่าด้วง หมู่ 8 ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ แล้วเกิดการโต้เถียงกับครูผู้หญิงที่เตือนว่า มีเด็กกำลังเล่นอยู่ในสนาม เพราะชายดังกล่าวยังขับรถส่ายไปมา ครูเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็ก จึงบอกให้จอดรถ แต่ชายคนดังกล่าวมีท่าทางไม่พอใจ เดินมาต่อว่าครูด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (4 ก.พ. 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลท่าด้วง ได้เจอตัวชายทั้ง 2 คนแล้ว และได้เชิญตัวมากล่าวตักเตือน พร้อมทั้งเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านท่าด้วง เพื่อทำการกราบขอโทษ กับการกระทำดังกล่าว ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูป และคิดว่าคุณครูสมหญิง ตะโกนด่าพวกตน จึงทำให้เกิดความโมโห
ด้านนายวิชชา อยู่เพชร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าด้วง ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลภายนอกมาหัดขับรถภายในโรงเรียน ที่บริเวณสนามฟุตบอล ด้านครูสมหญิง บุญปั่น ครูชำนาญพิเศษ โรงเรียนบ้านท่าด้วง เห็นเหตุการณ์ เกรงว่าเด็กที่เล่นอยู่ในสนามฟุตบอลจะได้รับอันตราย จึงได้ตะโกนบอกให้หยุดรถ แล้วเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตามคลิปที่ปรากฏ จึงได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลท่าด้วง และได้นำตัวบุคคลทั้ง 2 คน มาปรับความเข้าใจกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ได้ตกลงกันว่าให้บุคคลทั้ง 2 ออกไปจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นบุคคลจากพื้นที่อื่นมาทำงานรับจ้างในหมู่บ้าน และไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณโรงเรียนอีก
โดย นายพิชิตชัย ชมเฆม อายุ 28 ปี ผู้ที่มีปากเสียงกับคุณครูสมหญิง เล่าว่า ตนได้พาพี่ชาย คือนายวันเฉลิม พัฒน์ทอง อายุ 30 ปี มาหัดขับรถในสนามฟุตบอลโรงเรียน แล้วถูกครูสมหญิงและครูคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ ได้ตะโกนบอกให้ตนหยุดรถ ซึ่งขณะนั้นตนเองเป็นคนขับรถและกำลังสอนพี่ชายเรื่องการขับรถ แล้วได้ยินเสียงครูตะโกนใส่เสียงดัง ตนจึงเข้าใจว่า ครูตะโกนด่า จึงโมโหหยุดรถทันที และลงไปมีปากเสียงกับครูสมหญิง ตามคลิปที่ปรากฎ ซึ่งตนก็ได้ขอโทษต่อการกระทำดังกล่าวแล้วว่า ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายครู
ด้าน นายวันเฉลิม ผยว่า เล่าว่า ตนได้รับจ้างเก็บมะเขือ ที่บ้านท่าด้วง พอเสร็จงาน เลยให้น้องชายพามาหัดขับรถ โดยไม่รู้ว่าทางโรงเรียนห้ามหัดขับรถในโรงเรียน ซึ่งทีแรกตนเป็นคนขับเข้ามาในโรงเรียน ต่อมาได้เปลี่ยนให้น้องชายเป็นคนขับและได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ ครูสมหญิง บุญปัน ครูชำนาญพิเศษโรงเรียนบ้านท่าด้วง กล่าวว่า เมื่อวานหลังเลิกเรียน 15.30 น. ตนได้ติวหนังสือให้กับเด็กนักเรียนต่อที่ห้อง ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้ยินเสียงรถ คล้ายเหยียบคันเร่งเสียงดัง ที่บริเวณสนามฟุตบอล หลังจากติวเสร็จ ตนจึงได้เดินออกมาดู และเห็นว่าในสนามมีลูกฟุตบอลอยู่หลายลูก ไม่ทันไรรถคันดังกล่าวก็ได้เหยียบลูกฟุตบอล เมื่อตนเห็นว่ารถคันดังกล่าวจอดนิ่งอยู่กับที่แล้ว ตนจึงให้เด็กผู้ชาย 3 คน ไปเก็บลูกฟุตบอล จังหวะนั้นเองรถคันดังกล่าว โดยมีนายพิชิตชัย เป็นคนขับ ได้ขับรถเหมือนตั้งใจเร่งคันเร่งคิดว่าเหยียบสุดคันเร่ง เพราะเสียงดังมาก ตรงไปที่เด็ก ตนจึงได้ตะโกนสุดเสียงบอกให้หยุดรถเลย ตะโกนให้หยุดรถ 3 ครั้ง เพราะข้างหน้ามีเด็กอยู่ แต่นายพิชิตชัย ยังเหยียบคันเร่งรถคล้ายดริฟต์รถเป็นรูปตัว L เสียงดังอีก ทั้งๆ ที่ตรงนั้นมีเด็กอยู่ และลงมาจากรถตะโกนต่อว่าตนอย่างที่เห็นในคลิป
ที่มาข่าว https://news.ch7.com/detail/465599
จวกยับหนุ่มหัดขับรถที่สนามบอลภายในโรงเรียน ชี้หน้าด่าหยาบครู หลังถูกเตือน ระวังชนนักเรียนที่เล่นบอลอยู่ เพราะเหยียบบอลเสียหายไปแล้ว 1 ลูก
วันที่ 3 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปชายหัวร้อนยืนต่อว่าครูที่กล่าวตักเตือนเรื่องขับรถในสนามของโรงเรียน ด้วยคำหยาบ พร้อมระบุข้อความว่า “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ใครรู้จัก 2 คนนี้ หรือทราบเจ้าของรถคันนี้บ้างครับ รับแจ้งจากครู ว่าวันนี้ 03/02/64 ประมาณ 17.30 น. นำรถเก๋งไปหัดขับรถในโรงเรียน เกือบเกิดอุบัติเหตุชนเด็กในโรงเรียน พอครูหญิงตักเตือน ก็แสดงอาการไม่พอใจเหมือนจะเข้ามาทำร้ายร่างกายได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว”
ครูเห็นเช่นนั้นจึงได้ตะโกนบอกให้หยุดรถ แต่ชายดังกล่าวกลับตะโกน ใส่ครูอีกว่า “อันนั่นพี่ผมขับ แต่เนี่ยกูขับ เอ่อ กูเนี่ย” แล้วก็มีชายอีกคนใส่เสื้อสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม เดินมาจากรถ ตรงไปชี้หน้าครูคนที่อัดคลิป แล้วคลิปก็ถูกตัดไป
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ปรากฏว่ามีคนเข้ามากดแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ เป็นจำนวนมาก ส่วนมากคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าตรวจสอบชาย ทั้ง 2 คน ว่าเป็นคนมาจากที่ไหน และทำไมถึงมีพฤติกรรมก้าวร้าว เพราะเกรงว่าจะเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม
And are you staying with Mary. cialis 20mg price in malaysia Mary then saw Katharine raise her eyes again to the moon, with a contemplative look in them, as though she were setting that moon against the moon of other nights, held in memory.
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook