ที่หอประชุมอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายมนูญศักดิ์ สังข์ทอง ปลัดอาวุโสอำเภอหนองไผ่ เป็นประธานเปิดการประชุม ประชุมผังน้ำครั้งที่ 2 พื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก โดยมี นายปรีชา สุขกล่ำ ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) คณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (จังหวัดเลย) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง 1 (จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนล่าง 1 (จังหวัดเพชรบูรณ์)สื่อมวลชน ประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วม
นายปรีชา สุขกล่ำ ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า สทนช.ร่วมกับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาจัดการประชุมผังน้ำ ครั้งที่ 2 โครงการจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำสะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยา ท่าจีน เพื่อนำเสนอร่างผังน้ำ ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบ พร้อมรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อน้ำไปปรับใช้ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมากลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการศึกษาและทบทวนกายภาพของพื้นที่ การใช้ประโยชน์ที่ดินในอดีตถึงปัจจุบัน ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมือง การพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลจากแผนที่ต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น แผนที่แสดงโครงข่ายระบบระบายน้ำในปัจจุบัน ทิศทางการไหลของน้ำ วิเคราะห์สภาพและสาเหตุของการเกิดอุทกภัยและภัยแล้ง แผนที่แสดงระบบป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาอุทกภัย การบริหารจัดการอุทกภัย มูลค่าความเสียหายและวิเคราะห์การแก้ปัญหาที่ผ่านมา แผนที่แสดงจุดประกาศภัยแล้ง การบริหารจัดการภัยแล้ง มูลค่าความเสียหายและวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา จากหน่วยงานต่างๆพร้อมทั้งจัดทำแผนที่แสดงสิ่งปลูกสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่กีดขวางทางน้ำ ตลอดจนการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อนำมากำหนดขอบเขตผังน้ำโดยใช้แบบจำลองคณิตศาสตร์
ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ผลการวิเคราะห์และจัดทำร่างผังน้ำป่าสัก สามารถกำหนดพื้นที่น้ำหลาก 9 14, 389 ไร่ และพื้นที่น้ำนอง 35, 108 ไร่ โดยพื้นที่เหล่านี้มีข้อเสนอแนะในการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อไม่ให้กีดขวางทางน้ำ เบี่ยงเบนการไหลของน้ำ และผังน้ำจะเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อมีการควบคุมการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างและการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ผังน้ำอย่างเหมาะสม เช่น เขตชลประทานน้ำนองและเขตที่กำหนดไว้เป็นทางน้ำหลาก ควรเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม พื้นที่แก้มลิงกำหนดให้เป็นที่โล่ง ส่วนพื้นที่ชุ่มน้ำป่าชายเลนกำหนดให้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ส่วนเขตที่กำหนดให้เป็นชุมชนและอุตสาหกรรมตามผังเมืองรวมจังหวัด ควรมีระบบป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาอุทกภัยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงในการเกิดน้ำท่วม โดยการจัดทำผังน้ำมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องจำนวน 30 ฉบับ เช่น พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติการผังเมือง พ. ศ. 2562 พระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ. ศ. 2485 เทศบัญญัติและข้อบัญญัติท้องถิ่น เป็นต้น กฎหมายเหล่านี้จะทำให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ผังน้ำเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุด
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook